คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 604/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยผู้ขาดนัดพิจารณายื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ครั้งแรกไม่ได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล และศาลสั่งยกคำขอไปแล้ว จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่เป็นฉบับที่ 2 บรรยายแต่ข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล และขอให้ถือเหตุที่ได้ขาดนัดตามที่กล่าวในคำขอฉบับแรกเป็นส่วนประกอบของคำขอฉบับหลังได้ ไม่จำเป็นจะต้องบรรยายซ้ำ (อ้างฎีกาที่ 1472/2492)
จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ครั้งแรกอ้างเหตุไม่ครบถ้วนตามกฎหมาย ศาลสั่งยกคำขอไปแล้ว จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่เป็นครั้งที่ 2 โดยทำให้ถูกต้อง ย่อมทำได้ ไม่เป็นการดำเนินกระบวนวิธีพิจารณาซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 144 (อ้างฎีกาที่ 1309/2494)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้ง ๔ ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ร่วมกันรับผิด
จำเลยที่ ๒ ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่อีก ขอให้ถือเอาความในคำร้องฉบับแรกซึ่งแสดงเหตุที่ขาดนัด แล้วบรรยายข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ ๒ ไม่ควรต้องรับผิด
ศาลชั้นต้นสั่งว่าศาลได้สั่งยกร้องของจำเลยแล้ว จำเลยจกยกเหตุอ้างขึ้นใหม่เพื่อให้ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งเดิม เป็นการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกระบวนวิธีพิจารณาให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้รับคำร้องของจำเลยที่ ๒ ไว้พิจารณา
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยที่ ๒ ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ฉบับที่ ๒ ก็ต่อเนื่องมาจากคำขอฉบับที่ ๑ ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกันหาจำเป็นจะต้องมาบรรยายซ้ำอีกไม่ คำขอของจำเลยที่ ๒ จึงใช้ได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๔๗๒/๒๔๙๑) ส่วนในปัญหาว่าศาลชั้นต้นสั่งยกคำขอฉบับแรกของจำเลยที่ ๒ ไปแล้วจำเลยที่ ๒ จะมาร้องขออีกไม่ได้นั้น เห็นว่าครั้งแรกศาลยกคำขอเพราะทำมาไม่ถูกต้อง เมื่อจำเลยที่ ๒ ได้ทำคำขอใหม่ให้ถูกต้องจึงย่อมทำได้ หาใช่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๔ ไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๓๐๙/๒๔๙๔) เมื่อพิจารณาคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่ ๒ ทั้ง ๒ ฉบับประกอบกันแล้ว เห็นว่าได้อ้างเหตุครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๐๘ แล้วศาลชั้นต้นจึงชอบที่จะรับคำร้องจำเลยที่ ๒ ไว้ดำเนินการต่อไป
พิพากษายืน.

Share