คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6017/2549

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีนี้แม้โจทก์จะฟ้องว่าจำเลยทั้งสี่เป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาตามยอมของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ก็ตาม แต่ตามหนังสือรับรองเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข 2 ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัด มีจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ โดยจำเลยที่ 2 มิได้ให้การโต้แย้งว่าหนังสือรับรองเอกสารท้ายคำฟ้องดังกล่าวไม่ถูกต้องแต่อย่างใด ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างจำเลยที่ 1 ดังนั้น จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดในบรรดาหนี้สินของห้างจำเลยที่ 1 โดยไม่จำกัดจำนวนตาม ป.พ.พ. มาตรา 1070, 1077 (2), 1080 และมาตรา 1087 เมื่อศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 1 เด็ดขาด คดีถึงที่สุดแล้วตามคำสั่งของศาลล้มละลายกลาง จำเลยที่ 2 ซึ่งต้องร่วมรับผิดในหนี้ตามฟ้องกับจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์ด้วย จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์โต้เถียงว่าตนเองมิใช่เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวอีกได้ เมื่อหนี้ที่จำเลยที่ 2 จะต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์มีจำนวน 5,813,980.32 บาท และจำเลยที่ 2 เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ทั้งกรณีไม่มีเหตุอื่นที่ไม่ควรให้จำเลยที่ 2 ล้มละลาย คดีย่อมมีเหตุที่ศาลจะมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 2 เด็ดขาดตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 14 ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสี่เด็ดขาดและพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย
จำเลยทั้งสี่ไม่ยื่นคำให้การและจำเลยที่ 1 และที่ 4 ขาดนัดพิจารณา
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสี่เด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 14 และให้จำเลยทั้งสี่ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยหักจากกองทรัพย์สินของจำเลยทั้งสี่ เฉพาะค่าทนายความให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดตามที่เห็นสมควร
จำเลยที่ 2 และที่ 3 อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้แย้งฟังยุติได้ว่า จำเลยทั้งสี่เป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาตามยอมของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ คดีหมายเลขแดงที่ 13982/2537 ซึ่งให้จำเลยทั้งสี่ชำระเงินจำนวน 3,008,003.28 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 14.25 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 2,380,175.92 บาท และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 420,872.27 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ตามสำเนาคำพิพากษาตามยอมและสำเนาสัญญาประนีประนอมยอมความ ภายหลังมีคำพิพากษาดังกล่าวจำเลยทั้งสี่ไม่ชำระหนี้ตามคำบังคับ โจทก์ขอศาลออกหมายบังคับคดียึดสิทธิการเช่าอาคารเลขที่ 1939/52, 1939/53 และ 1939/54 – 56 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ของจำเลยที่ 3 ออกขายทอดตลาดเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2544 ได้เงินจำนวน 1,450,000 บาท ไม่เพียงพอชำระหนี้ ตามสำเนาบัญชีแสดงรายการรับจ่ายเงินครั้งที่ 1 โดยยอดหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมดังกล่าวคำนวณถึงวันฟ้องเป็นเงิน 5,813,980.32 บาท จำเลยที่ 2 เคยมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ดินเลขที่ 24865 ตำบลบางโพงพาง อำเภอยานนาวา (เมือง) กรุงเทพมหานคร แต่ได้โอนขายที่ดินแปลงดังกล่าวให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้วในราคา 500,000 บาท ตามสำเนาโฉนดที่ดินและสำเนาหนังสือสัญญาขาย ปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 มีว่า จำเลยที่ 2 มีหนี้สินล้นพ้นตัวและอาจชำระหนี้ได้ทั้งหมดหรือมีเหตุอื่นที่ไม่ควรให้ล้มละลายหรือไม่ เห็นว่า แม้คดีนี้โจทก์จะฟ้องว่าจำเลยทั้งสี่เป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาตามยอมของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ก็ตาม แต่ตามหนังสือรับรองเอกสารท้ายคำฟ้องปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัด มีจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ โดยจำเลยที่ 2 มิได้ให้การโต้แย้งว่าหนังสือรับรองเอกสารท้ายคำฟ้องดังกล่าวไม่ถูกต้องแต่อย่างใด ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างจำเลยที่ 1 ดังนั้น จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดในบรรดาหนี้สินของห้างจำเลยที่ 1 โดยไม่จำกัดจำนวนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1070, 1077 (2), 1080 และมาตรา 1087 เมื่อศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 1 เด็ดขาด คดีถึงที่สุดแล้วตามคำสั่งของศาลล้มละลายกลาง จำเลยที่ 2 ซึ่งต้องร่วมรับผิดในหนี้ตามฟ้องกับจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์ด้วย จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์โต้เถียงว่าตนเองมิใช่เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวอีกได้ เมื่อหนี้ที่จำเลยที่ 2 จะต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์มีจำนวน 5,813,980.32 บาท และจำเลยที่ 2 เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ทั้งจำเลยที่ 2 เคยมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ที่ดินจำนวน 1 แปลง แต่ไม่ได้นำมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์กลับนำไปขายให้แก่บุคคลภายนอก แสดงว่าจำเลยที่ 2 ไม่พยายามชำระหนี้ให้แก่โจทก์โดยสุจริต กรณีจึงไม่มีเหตุที่ไม่ควรให้จำเลยที่ 2 ล้มละลาย ที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 2 เด็ดขาดมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล อุทธรณ์ในส่วนของจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น…
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้เป็นพับ.

Share