คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6011/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ซื้อที่ดินพร้อมบ้านจากผู้มีชื่อโดยให้จำเลยลงชื่อรับโอนที่ดินและบ้านแทนโจทก์ แต่จำเลยมิได้เข้าไปครอบครองที่ดินและบ้านดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้นแม้จำเลยจะโอนที่ดินและบ้านของโจทก์ให้ผู้อื่นไป การกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นความผิดฐานยักยอกตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๘ จำเลยเป็นตัวแทนโจทก์ซื้อที่ดินมีโฉนดพร้อมบ้าน ๑ หลังจากผู้มีชื่อโดยลงชื่อรับโอนแทนโจทก์ ต่อมาวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๒๘ จำเลยได้เบียดบังเอาที่ดินพร้อมบ้านไปเป็นประโยชน์ของตนหรือบุคคลอื่นโดยทุจริต โดยจดทะเบียนขายให้บุคคลอื่น ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๒
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๒,๓๕๓ แต่ให้ลงโทษตามมาตรา ๓๕๒ ให้จำคุกจำเลยไว้ ๓ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า แม้โจทก์จะมอบให้จำเลยรับโอนบ้านและที่ดินไว้แทนก็ตาม แต่จำเลยมิได้เข้าครอบครองบ้านและที่ดินดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้นแม้จำเลยจะโอนบ้านและที่ดินของโจทก์ให้ผู้อื่นไป การกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นความผิดฐานยักยอกพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกาว่า ตามพฤติการณ์และการกระทำของจำเลยถือได้ว่าจำเลยได้ครอบครองบ้านและที่ดินแล้ว
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยไม่เคยเข้าไปครอบครองหรือเกี่ยวข้องกับบ้านและที่ดินพิพาทแต่อย่างใด ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share