แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
อำนาจของศาลที่จะมีคำสั่งให้งดการบังคับคดีมิใช่มีแต่เฉพาะเมื่อลูกหนี้ตามคำพิพากษายื่นคำร้องขอโดยอาศัยเหตุและเงื่อนไขตาม ป.วิ.พ. มาตรา 293 เท่านั้น หากคำร้องของลูกหนี้ ตามคำพิพากษาไม่เข้าเงื่อนไขตามมาตราดังกล่าว แต่ปรากฏเหตุอื่น ที่เป็นการสมควรและไม่ก่อให้เกิดผลได้เสียแก่เจ้าหนี้และลูกหนี้ตามคำพิพากษายิ่งหย่อนกว่ากัน ศาลก็มีคำสั่งให้งดการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 292(2) ได้. (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1452/2522)
ย่อยาว
คดีนี้ศาลชั้นต้นได้ออกคำบังคับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 10 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยตามคำพิพากษาซึ่งยังไม่ถึงที่สุด โดยอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ 1 ได้ยื่นฟ้องโจทก์ต่อศาลชั้นต้นเป็นคดีอีกเรื่องหนึ่งและศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้โจทก์ชำระเงินแก่จำเลยที่ 1 จำนวน 106 ล้านบาท ตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 769/2532ของศาลชั้นต้น จำเลยที่ 1 สามารถหักกลบลบหนี้กับโจทก์ได้ จำเลยที่ 2 เป็นลูกหนี้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ขอให้งดการบังคับคดีแก่จำเลยที่ 2 ไว้ก่อนจนกว่าคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 769/2532 ของศาลชั้นต้นจะถึงที่สุด
โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านว่า จำเลยที่ 2 มิได้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ สิทธิในการขอหักกลบลบหนี้และขอให้ศาลงดการบังคับคดีเป็นสิทธิเฉพาะตัวของจำเลยที่ 1 ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดการบังคับคดีสำหรับจำเลยที่ 2 ไว้ในระหว่างที่คดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 769/2532 ของศาลชั้นต้นยังไม่ถึงที่สุด
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า อำนาจของศาลในอันที่จะมีคำสั่งให้งดการบังคับคดีนั้นมิใช่จะมีได้แต่เฉพาะเมื่อลูกหนี้ตามคำพิพากษายื่นคำร้องขอโดยอาศัยเหตุและเงื่อนไขดังที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 บัญญัติไว้เพียงกรณีเดียวเท่านั้นไม่หากมีกรณีอื่นใดที่เป็นการสมควรและไม่ก่อให้เกิดผลได้เสียแก่เจ้าหนี้และลูกหนี้ตามคำพิพากษายิ่งหย่อนกว่ากัน ศาลก็อาจใช้ดุลพินิจสั่งให้มีการงดการบังคับคดีได้ ทั้งนี้โดยอาศัยอำนาจตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292(2) บัญญัติให้ไว้และตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1452/2522 ระหว่างนางสาวบุญศรีสุนทรหงส์ โจทก์ นายบู้เลี๊ยก แซ่ลิ้ม จำเลย ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์เป็นฝ่ายแพ้คดีจะต้องชำระหนี้แก่จำเลยที่ 1 ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 769/2532 เป็นเงิน 106ล้านบาทเศษ มากกว่าหนี้ตามคำพิพากษาที่จำเลยที่ 2 จะต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 ชำระแก่โจทก์ในคดีนี้ไม่น้อยกว่า 90 ล้านบาท หากจำเลยที่ 1 ชนะคดีและหักกลบลบหนี้กับโจทก์ได้ในที่สุดจำเลยที่ 2ผู้เป็นลูกหนี้ร่วมก็จะได้ประโยชน์ไม่ต้องชำระหนี้ตามคำพิพากษารายนี้เป็นผลให้โจทก์ไม่ต้องบังคับคดีกับจำเลยที่ 2 ต่อไป ทั้งคดีนี้ศาลชั้นต้นก็ยังไม่ได้ออกหมายบังคับคดี ยังไม่มีการยึดทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 แต่อย่างใด ก่อนหน้าจำเลยที่ 2 จะร้องขอให้มีการงดการบังคับคดีศาลชั้นต้นก็มีคำสั่งให้งดการบังคับคดีแก่จำเลยที่ 1 ไปแล้ว เช่นนี้ จึงมีเหตุสมควรที่จะงดการบังคับแก่จำเลยที่ 2 ไว้
พิพากษากลับ ให้งดการบังคับคดีแก่จำเลยที่ 2 ไว้ตามคำสั่งของศาลชั้นต้น.