คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 598/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

กรมธรรม์ประกันภัยมีเงื่อนไขแห่งความรับผิดว่าจำเลยจะต้องรับผิดในทรัพย์สินที่เอาประกันภัยในกรณีที่ทรัพย์สินสูญเสียหรือเสียหายเนื่องจากเพลิงไหม้ หรือฟ้าผ่าหรือการระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น แต่สำหรับวินาศภัยที่เกิดขึ้นจากการระเบิดมีข้อยกเว้นเหตุแห่งการสูญเสียและการเสียหายว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดในความเสียหายจากการระเบิดที่เกิดขึ้นจากเพลิงไหม้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าขณะเครื่องจักรตีแป้งที่เอาประกันภัยไว้กำลังทำงานชิ้นส่วนโลหะภายในเครื่องเกิดหลุดหรือหักออกทำให้ชิ้นส่วนโลหะดังกล่าวกระทบกันเกิดเป็นประกายไฟลุกติดกับผงละอองแป้งภายในเครื่องตีแป้งแล้วลุกเป็นไฟลามไปตามท่อจนถึงถังรองรับไซโคลน ทำให้มีการเผาไหม้ภายในถังรองรับไซโคลนเกิดแรงอัดสูงสุดจนระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้ทรัพย์สินที่โจทก์เอาประกันภัยไว้สูญเสียหรือเสียหาย ความสูญเสียหรือเสียหายจึงมีสาเหตุโดยตรงมาจากการระเบิดในถังรองรับไซโคลนการสูญเสียหรือเสียหายของทรัพย์สินโจทก์ที่เอาประกันภัยไว้กับจำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยเพราะได้รับยกเว้นตามกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าว จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ตามสัญญาประกันภัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าเสียหายรวมทั้งดอกเบี้ยตามสัญญาประกันภัยเป็นจำนวนเงิน 377,551 บาท และดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ในต้นเงิน 330,100 บาท นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า มูลเหตุคดีนี้เกิดจากการระเบิดจากภายในของเครื่องจักรที่เอาประกันภัยไว้ ทำให้เครื่องจักรและแป้งที่เอาประกันภัยไว้สูญเสียหรือเสียหายจึงอยู่ในเงื่อนไขข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยตามข้อสัญญาประกันภัย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามกรมธรรม์ อย่างไรก็ตามค่าซ่อมเครื่องจักรพร้อมอุปกรณ์ที่ได้รับความเสียหาย หากมีอยู่จริงก็ไม่เกิน102,200 บาท และสต๊อกสินค้าจำพวกแป้งที่ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงินเพียง 3,250 บาท
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยใช้เงินค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 377,551 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงิน 330,100 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่า โจทก์ได้เอาประกันภัยสต๊อกสินค้า แป้งข้าวจ้าว และเครื่องจักรทรัพย์สินของโจทก์ไว้กับจำเลยในวงเงินรวมทั้งสิ้น 3,000,000 บาท ตามกรมธรรม์ประกันภัยเอกสารหมาย จ.5 ต่อมาระหว่างอายุสัญญาประกันภัยขณะเครื่องจักรตีแป้งที่เอาประกันภัยไว้กำลังทำงานชิ้นส่วนโลหะภายในเครื่องเกิดหลุดหรือหักออกทำให้ชิ้นส่วนโลหะดังกล่าวกระทบกันเกิดเป็นประกายไฟลุกติดกับผงละอองแป้งภายในเครื่องตีแป้ง แล้วติดไฟลามไปตามท่อจนถึงถังรองรับไซโคลนทำให้มีการเผาไหม้ภายในถังรองรับไซโคลน เกิดแรงอัดสูงสุดจนระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้สินค้าและเครื่องจักรที่โจทก์เอาประกันภัยไว้ได้รับความเสียหายโจทก์ได้ทวงถามให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์แล้วแต่จำเลยไม่ยอมชำระโดยอ้างว่า เหตุที่เกิดขึ้นมิใช่วินาศภัยตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญาประกันภัยที่จำเลยจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์และคู่ความนำสืบโต้เถียงกันเกี่ยวกับจำนวนค่าเสียหาย มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ตามสัญญาประกันภัยหรือไม่ เพียงใดแม้ตามสัญญาประกันภัยที่โจทก์ทำกับจำเลยตามกรมธรรม์ประกันภัยเอกสารหมาย จ.5 และเอกสารแบบแนบท้ายว่าด้วยสัญญาคุ้มครองและยกเว้นภัยระเบิด (แบบ อค.1.19) ในส่วนที่ว่าด้วยสัญญาคุ้มครองมีข้อตกลงว่า จำเลยจะต้องรับผิดในทรัพย์สินที่เอาประกันภัยในกรณีที่ทรัพย์สินต้องสูญเสียหรือเสียหาย เนื่องจากเพลิงไหม้ (ไม่ว่าจะเกิดจากการระเบิดหรือไม่ก็ตาม) หรือฟ้าผ่า หรือการระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้นแต่สำหรับกรณีวินาศภัยที่เกิดขึ้นจากการระเบิดนั้น มีข้อยกเว้นเหตุแห่งการสูญเสียและการเสียหาย ซึ่งไม่รวมอยู่ในการประกันภัยนี้ตามกรมธรรม์ประกันภัยข้อ 2.5 ว่า การระเบิดทุกชนิด (ไม่ว่าการระเบิดจะเกิดจากเพลิงไหม้หรือไม่ก็ตาม) เว้นแต่ส่วนที่ระบุในสัญญาคุ้มครองข้างต้น ส่วนเงื่อนไขและข้อความอื่น ๆ ในกรมธรรม์ประกันภัยนี้คงใช้บังคับตามเดิม เงื่อนไขที่เป็นข้อยกเว้นที่จำเลยไม่ต้องรับผิดในเหตุแห่งการสูญเสียและการเสียหายจากการระเบิดจึงมีความหมายถึงการระเบิดที่เกิดจากเพลิงไหม้ด้วย เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ขณะเครื่องจักรตีแป้งที่เอาประกันภัยไว้กำลังทำงานชิ้นส่วนโลหะภายในเครื่องเกิดหลุดหรือหักออกทำให้ชิ้นส่วนโลหะดังกล่าวกระทบกันเกิดเป็นประกายไฟลุกติดกับผงละอองแป้ง ภายในเครื่องตีแป้งแล้วลุกเป็นไฟลามไปตามท่อจนถึงถังรองรับไซโคลนทำให้มีการเผาไหม้ภายในถังรองรับไซโคลนเกิดแรงอัดสูงสุดจนระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้ทรัพย์สินที่โจทก์เอาประกันภัยไว้สูญเสียหรือเสียหายความสูญเสียหรือเสียหายจึงมีสาเหตุโดยตรงมาจากการระเบิดในถังรองรับไซโคลนการสูญเสียหรือเสียหายของทรัพย์สินโจทก์ ที่เอาประกันภัยไว้กับจำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัย เพราะได้รับยกเว้นตามกรมธรรม์ประกันภัยข้อ 2.5 ดังกล่าวจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ตามสัญญาประกันภัยคดีไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่นอีก ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์มานั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share