คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5954/2559

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้คำสั่งรับฎีกาของศาลชั้นต้นเป็นการไม่ชอบ แต่เมื่อศาลฎีกาอนุญาตให้ผู้ร้องฎีกาและศาลชั้นต้นได้ส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์แก้แล้ว โจทก์ไม่ยื่นคำแก้ฎีกา จึงไม่จำเป็นที่ศาลฎีกาจะสั่งให้ส่งสำนวนคืนศาลชั้นต้นเพื่อมีคำสั่งรับฎีกาของผู้ร้องและส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์แก้อีก
ขณะที่ ธ. และ ส. มอบอำนาจให้ ย. และ ด. ยื่นคำร้องขอคืนของกลางในคดีอาญาและแต่งตั้งให้ทนายความเข้าดำเนินการ ธ. ยังเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนผู้ร้อง แม้ว่าขณะที่ ย. และ ด. มอบอำนาจช่วงให้ ก. ดำเนินคดี ธ. จะพ้นจากตำแหน่งกรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อกระทำการแทนผู้ร้องไปแล้วก็ตาม ก็หาได้ทำให้ฐานะของผู้รับมอบอำนาจให้ดำเนินคดีแทนผู้ร้องสิ้นสุดไปไม่ เมื่อการมอบอำนาจให้ ย. และ ด. ยังไม่ถูกยกเลิกเพิกถอน หนังสือมอบอำนาจเกี่ยวกับการดำเนินคดีและหนังสือมอบอำนาจให้ดำเนินคดีจึงมีผลสมบูรณ์ ผู้ร้องจึงมีอำนาจยื่นคำร้องขอคืนของกลางดังกล่าว

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่งและวรรคสาม (2), 66 วรรคสาม, 57, 91 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และริบรถกระบะหมายเลขทะเบียน บร 1966 ลำปาง ของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องโดยนายธวัชไชย และนายสุรพล กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนผู้ร้องมอบอำนาจให้นายยอดยิ่ง และนายเดชา เป็นผู้มีอำนาจยื่นคำร้องขอคืนของกลางและให้มีอำนาจมอบอำนาจช่วงได้ ซึ่งผู้รับมอบอำนาจทั้งสองมอบอำนาจช่วงให้นายสมโชค ดำเนินคดีแทน ผู้ร้องเป็นเจ้าของรถกระบะหมายเลขทะเบียน บร 1966 ลำปาง ของกลาง เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2555 จำเลยที่ 1 เช่าซื้อรถกระบะของกลางไปจากผู้ร้อง แล้วนำไปใช้กระทำความผิด ผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 ขอให้คืนรถกระบะของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้คืนรถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด หมายเลขทะเบียนบร 1966 ลำปาง ของกลาง แก่ผู้ร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดพิพากษากลับ ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้เป็นคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจึงอยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 ซึ่งมาตรา 19 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ในกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาหรือมีคำสั่งในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามมาตรา 18 วรรคหนึ่ง แล้ว คู่ความอาจยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องไปพร้อมกับฎีกาต่อศาลฎีกาภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันอ่านหรือถือว่าได้อ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลนั้นให้คู่ความฝ่ายที่ขออนุญาตฎีกาฟัง เพื่อขอให้พิจารณารับฎีกาไว้วินิจฉัยก็ได้” เมื่อปรากฏว่าในการยื่นฎีกาต่อศาลชั้นต้น ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 18 ธันวาคม 2558 ขอให้ศาลฎีกาอนุญาตให้ฎีกา แต่ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า สั่งในฎีกา ฉบับลงวันที่ 18 ธันวาคม 2558 ที่ยื่นมาด้วยพร้อมกันนี้ และสั่งรับฎีกาของผู้ร้องนั้น จึงเป็นการไม่ชอบ อย่างไรก็ตามเมื่อคดีขึ้นสู่ศาลฎีกาแล้ว ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่าข้อความที่ตัดสินเป็นปัญหาสำคัญที่ศาลฎีกาควรจะได้วินิจฉัย จึงอนุญาตให้ผู้ร้องฎีกา แม้คำสั่งรับฎีกาของศาลชั้นต้นเป็นการไม่ชอบดังวินิจฉัยข้างต้น แต่เมื่อศาลฎีกาอนุญาตให้ผู้ร้องฎีกาและศาลชั้นต้นได้ส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์แก้แล้ว แต่โจทก์ไม่ยื่นคำแก้ฎีกา กรณีจึงไม่เป็นการจำเป็นที่ศาลฎีกาจะสั่งให้ส่งสำนวนคืนศาลชั้นต้นเพื่อมีคำสั่งรับฎีกาของผู้ร้องและส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์แก้อีกแต่อย่างใดข้อเท็จจริงในชั้นฎีการับฟังเป็นยุติว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของรถกระบะหมายเลขทะเบียน บร 1966 ลำปาง ของกลาง และผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า หนังสือมอบอำนาจเกี่ยวกับการดำเนินคดี และหนังสือมอบอำนาจให้ดำเนินคดี มีผลสมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า หนังสือรับรอง ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ออกให้แก่ผู้ร้อง เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2553 รับรองว่า นายธวัชไชย และนายสุรพล เป็นกรรมการของผู้ร้องและมีอำนาจลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของผู้ร้องทำการผูกพันผู้ร้องได้ และเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2555 บุคคลทั้งสองได้มอบอำนาจให้นายยอด และนายเดชา เป็นผู้มีอำนาจยื่นคำร้องขอคืนของกลางในคดีอาญา แต่งตั้งทนายความเข้าดำเนินการ และมีอำนาจมอบอำนาจช่วงให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือหลายคนให้มีอำนาจกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามหนังสือมอบอำนาจฉบับนี้ได้ ตามหนังสือมอบอำนาจเกี่ยวกับการดำเนินคดี จึงมีอำนาจกระทำการแทนผู้ร้องได้โดยชอบ แม้ต่อมาภายหลังเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2557 ในขณะที่นายยอดยิ่งและนายเดชา มอบอำนาจช่วงให้นายสมโชค ดำเนินคดีตามหนังสือมอบอำนาจให้ดำเนินคดี นายธวัชไชยมิได้เป็นกรรมการผู้ร้องแล้วตามหนังสือรับรอง ก็ตาม นายยอดยิ่งและนายเดชาก็ยังคงมีอำนาจทำการแทนผู้ร้องได้โดยชอบ เพราะขณะที่นายธวัชไชยและนายสุรพลมอบอำนาจให้นายยอดยิ่งและนายเดชาเป็นผู้มีอำนาจยื่นคำร้องขอคืนของกลางในคดีอาญา และแต่งตั้งทนายความเข้าดำเนินการนั้น นายธวัชไชย ยังเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนผู้ร้อง แม้ภายหลังนายธวัชไชยจะพ้นจากตำแหน่งกรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อกระทำการแทนผู้ร้องก็ตาม แต่หาได้ทำให้ฐานะของผู้รับมอบอำนาจให้ดำเนินคดีแทนผู้ร้องสิ้นสุดไปไม่ และเมื่อการมอบอำนาจให้นายยอดยิ่งและนายเดชายังไม่ได้ถูกยกเลิกเพิกถอน หนังสือมอบอำนาจเกี่ยวกับการดำเนินคดี และหนังสือมอบอำนาจให้ดำเนินคดี จึงมีผลสมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ร้องจึงมีอำนาจยื่นคำร้องคดีนี้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้ร้องฟังขึ้น
พิพากษากลับว่า ให้คืนรถกระบะ หมายเลขทะเบียน บร 1966 ลำปาง ของกลาง แก่ผู้ร้อง

Share