คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5947/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์เพียงวันที่14มกราคม2537ต่อมาวันที่24มกราคม2537โจทก์ยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยอ้างเหตุว่าดูตัวเลข14เป็น24จึงเข้าใจว่าศาลอนุญาตให้ยื่นอุทธรณ์ภายในวันที่24มกราคม2537ดังนี้คำสั่งศาลชั้นต้นได้เขียนวันที่ไว้ชัดเจนแล้วการดูวันที่ผิดเป็นความประมาทเลินเล่อของโจทก์เองไม่ใช่เหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา23โจทก์ยื่นอุทธรณ์วันที่24มกราคม2537จึงพ้นกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตขยายให้

ย่อยาว

คดีนี้เนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าเสียหายในมูลละเมิดเป็นเงิน 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ภายในวันที่ 14 มกราคม2537 ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2537 โจทก์ยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์ในวันเดียวกัน โดยอ้างว่าโจทก์ดูตัวเลขวันที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ภายในวันที่ 14 มกราคม 2537ผิดไปเป็นวันที่ 24 มกราคม 2537
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์ยื่นอุทธรณ์เลยกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์และศาลไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์ จึงไม่รับอุทธรณ์
โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์โดยอ้างว่า โจทก์ไม่มีเจตนาที่จะไม่ยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายเวลาได้ เนื่องจากทนายโจทก์และโจทก์ดูวันผิด จึงยื่นอุทธรณ์ในวันที่ 24 มกราคม 2537 ขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า การขยายระยะเวลาอุทธรณ์จะต้องยื่นภายในกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์ แต่โจทก์มาขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์เมื่อสิ้นระยะเวลาอุทธรณ์แล้ว โดยอ้างเหตุดูวันที่ผิด มิใช่กรณีเหตุสุดวิสัยที่จะขยายระยะเวลาอุทธรณ์ได้ และอุทธรณ์ของโจทก์ยื่นต่อศาลชั้นต้นเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์แล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะรับอุทธรณ์ของโจทก์ได้ ให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์
โจทก์ ฎีกา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาโดยเห็นว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์เป็นที่สุด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236
โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา
ศาลฎีกามีคำสั่งว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์มิใช่คำสั่งยื่นตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ด้วยเนื้อหาในอุทธรณ์ของโจทก์อันจะเป็นที่สุด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 236 วรรคหนึ่ง โจทก์จึงมีสิทธิฎีกาได้ ให้รับฎีกาของโจทก์ไว้ดำเนินการต่อไป
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่า คดีนี้ครบกำหนดยื่นอุทธรณ์วันที่ 9 มกราคม 2537 โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ออกไปเป็นวันที่ 29 มกราคม 2537 แต่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์เพียงวันที่ 14 มกราคม 2537ต่อมาวันที่ 24 มกราคม 2537 โจทก์ยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยอ้างเหตุว่าดูตัวเลข 14 เป็น 24 จึงเข้าใจว่าศาลอนุญาตให้ยื่นอุทธรณ์ภายในวันที่ 24 มกราคม 2537 เห็นว่า คำสั่งศาลชั้นต้นได้เขียนวันที่ไว้ชัดเจนแล้ว การดูดวันที่ผิดเป็นความประมาทเลินเล่อของโจทก์เองไม่ใช่เหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 โจทก์ยื่นอุทธรณ์วันที่ 24 มกราคม 2537จึงพ้นกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตขยายให้ที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งมานั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share