คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5946/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้จำเลยจะให้การว่าฟ้องเคลือบคลุม แต่ปัญหาดังกล่าวในการชี้สองสถานศาลชั้นต้นไม่ได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ซึ่งจำเลยมิได้โต้แย้งหรือคัดค้านการชี้สองสถานนั้นว่าไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบแต่ประการใด ถือได้ว่าจำเลยได้สละข้อต่อสู้ในปัญหาดังกล่าวแล้ว จึงไม่ใช่ข้อกฎหมายที่ได้ว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ทั้งไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรกศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย ตามคำฟ้องระบุว่าจำเลยยืมถังแก๊สจากโจทก์ จำเลยก็ให้การว่าได้ยืมถังแก๊สจากโจทก์จริง เพียงแต่อ้างว่าจำเลยไม่ได้ผิดสัญญา จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ดังนั้น การที่ศาลล่างทั้งสองนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 640ซึ่งเป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการยืมใช้คงรูปมาปรับใช้ในการวินิจฉัยคดีนี้ จึงไม่เป็นการคลาดเคลื่อนหรือนอกคำฟ้องส่วนข้อต่อสู้ของจำเลยที่ให้การว่า โจทก์ชอบที่จะไปฟ้องเรียกถังแก๊สคืนจากผู้ครอบครองฐานลาภมิควรได้นั้น ข้อต่อสู้ของจำเลยดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของข้อต่อสู้ที่ว่าจำเลยไม่ได้ผิดสัญญาเมื่อศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าจำเลยผิดสัญญาและโจทก์ชอบที่จะฟ้องขอให้บังคับจำเลยได้ จึงเป็นการวินิจฉัยตามข้อต่อสู้ของจำเลยแล้ว แม้ศาลล่างทั้งสองมิได้วินิจฉัยว่าโจทก์ชอบที่จะไปฟ้องเรียกถังแก๊สคืนจากผู้ครอบครองฐานลาภมิควรได้ได้หรือไม่ ก็หาเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยคำพิพากษาไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นลูกค้าซื้อแก๊สจากโจทก์ เมื่อวันที่29 มิถุนายน 2531 จำเลยทำสัญญาให้โจทก์ไว้ว่า จำเลยยืมถังแก๊สขนาดบรรจุ 48 กิโลกรัม จำนวน 36 ใบ ไปจากโจทก์ โดยตกลงจะจ่ายเงินค่าซื้อถังแก๊สใบละ 1,400 บาท ให้โจทก์ภายใน 60 วันนับแต่วันเลิกซื้อแก๊สจากโจทก์ ต่อมาจำเลยเลิกซื้อแก๊สจากโจทก์จำเลยจึงมีหน้าที่จะต้องชำระเงินค่าถังแก๊สที่ยืมไปจากโจทก์แทนการส่งมอบถังแก๊สตามสัญญาเป็นเงิน 50,400 บาท โจทก์ทวงถามแล้วแต่จำเลยไม่ชำระเงินค่าซื้อถังแก๊สแก่โจทก์ ขอให้บังคับจำเลยใช้เงิน 50,400 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า จำเลยเลิกประกอบกิจการสวนอาหารและส่งมอบกิจการพร้อมทรัพย์สินรวมทั้งถังแก๊สตามฟ้องให้เจ้าของกิจการสวนอาหารเดิมไปแล้ว จึงมิใช่กรณีที่จำเลยเลิกซื้อแก๊สจากโจทก์เพื่อไปซื้อจากบุคคลอื่นตามที่สัญญาระบุไว้ จำเลยจึงไม่ต้องใช้ราคาถังแก๊สที่จำเลยยืมไปแก่โจทก์ โจทก์ชอบที่จะฟ้องเรียกคืนจากครอบครองฐานลาภมิควรได้ ขอให้ยกฟ้อง
โจทก์จำเลยรับข้อเท็จจริงกันและต่างแถลงไม่ติดใจสืบพยานต่อไป ขอให้ศาลวินิจฉัยคดีไปตามเอกสารที่ส่งและข้อเท็จจริงที่แถลงรับกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 50,400 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สำหรับปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยฎีกาข้อแรกว่าฟ้องเคลือบคลุม นั้น เห็นว่า แม้จำเลยจะให้การว่าฟ้องเคลือบคลุมแต่ปัญหาดังกล่าวในการชี้สองสถานศาลชั้นต้นไม่ได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ ซึ่งจำเลยมิได้โต้แย้งหรือคัดค้านการชี้สองสถานนั้นว่าไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบแต่ประการใด ถือได้ว่าจำเลยได้สละข้อต่อสู้ในปัญหาดังกล่าวแล้ว จึงไม่ใช่ข้อกฎหมายที่ได้ว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ทั้งไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรกศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยในข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลยข้อต่อไปว่า ศาลล่างทั้งสองพิพากษานอกเหนือคำฟ้องและมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยคำพิพากษาหรือไม่ เห็นว่า ตามคำฟ้องระบุว่าจำเลยยืมถังแก๊สจากโจทก์ จำเลยก็ให้การว่าได้ยืมถังแก๊สจากโจทก์จริงเพียงแต่อ้างว่าจำเลยไม่ได้ผิดสัญญาจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ดังนั้น การที่ศาลล่างทั้งสองนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 640 ซึ่งเป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการยืมใช้คงรูปมาปรับใช้ในการวินิจฉัยคดีนี้ จึงหาคลาดเคลื่อนหรือนอกคำฟ้องแต่อย่างใดไม่ ส่วนที่จำเลยฎีกาว่า ศาลล่างทั้งสองมิได้วินิจฉัยถึงข้อต่อสู้ของจำเลยที่ให้การว่า โจทก์ชอบที่จะไปฟ้องเรียกถังแก๊สคืนจากผู้ครอบครองฐานลาภมิควรได้ จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยคำพิพากษานั้น เห็นว่า ข้อต่อสู้ของจำเลยดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของข้อต่อสู้ที่ว่าจำเลยไม่ได้ผิดสัญญาเมื่อศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าจำเลยผิดสัญญาโจทก์ชอบที่จะฟ้องขอให้บังคับจำเลยได้ จึงเป็นการวินิจฉัยตามข้อต่อสู้ของจำเลยแล้ว แม้ศาลล่างทั้งสองมิได้วินิจฉัยว่าโจทก์ชอบที่จะไปฟ้องเรียกถังแก๊สคืนจากผู้ครอบครองฐานลาภมิควรได้ ได้หรือไม่ ก็หาเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยคำพิพากษาไม่
พิพากษายืน

Share