แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยกับพวกรวม 4 คน ทำการปล้นทรัพย์ โดยแบ่งหน้าที่กันทำ จำเลยกับพวกอีก 2 คนขึ้นไปเอาทรัพย์บนเรือน พวกจำเลยอีกคนหนึ่งถือปืนเฝ้าอยู่ใต้ถุนเพื่อคอยขัดขวางผู้ที่จะมาช่วยผู้เสียหายโดยใช้ปืนนั้นยิง เมื่อคนร้ายนั้นใช้ปืนยิงผู้ที่จะมาช่วยบาดเจ็บสาหัส จำเลยต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคนด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์และใช้ปืนยิงนายไฮ้โดยเจตนาจะฆ่า แต่นายไฮ้ไม่ตายเพียงแต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งนี้เพื่อความสะดวกแก่การปล้นและยึดถือเอาทรัพย์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 340, 83
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรค 2
โจทก์ – จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยกับพวกรวม 4 คน สมคบกันปล้นทรัพย์โดยแบ่งหน้าที่กันทำ คือจำเลยคุมผู้เสียหาย อีก 2 คน ค้นหาทรัพย์และคนร้ายคนสุดท้ายถือปืนเฝ้าอยู่ใต้ถุนเรือนเพื่อคอยขัดขวางผู้ที่จะมาช่วยผู้เสียหาย จึงเป็นที่เห็นได้ชัดว่าจำเลยประสงค์ให้คนร้ายนี้ใช้ปืนยิงผู้ที่จะมาขัดขวางการปล้น จึงถือได้ว่าคนร้ายทั้งหมดได้ร่วมกันทำผิดโดยตลอด แล้ววินิจฉัยว่าเมื่อคนร้ายที่เฝ้าอยู่ใต้ถุนเรือนยิงนายไฮ้บาดเจ็บสาหัส จำเลยต้องมีผิด (ฐานพยายามฆ่าคน) ด้วย
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าจำเลยมีผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 4 และมาตรา 288 ประกอบกับมาตรา 80 แต่ให้ลงโทษตามมาตรา 340 วรรค 4