คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 593/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกับพวกรวม 4 คน ทำการปล้นทรัพย์ โดยแบ่งหน้าที่กันทำ จำเลยกับพวกอีก 4 คนขึ้นไปเอาทรัพย์บนเรือน พวกจำเลยอีกคนหนึ่งถือปืนเฝ้าอยู่ใต้ถุนเพื่อคอยขัดขวางผู้ที่จะมาช่วยผู้เสียหายโดยใช้ปืนนั้นยิง เมื่อคนร้ายนั้นใช้ปืนยิงผู้ที่จะมาช่วยบาดเจ็บสาหัส จำเลยต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์และใช้ปืนยิงนายไฮ้โดยเจตนาจะฆ่าแต่นายไฮ้ไม่ตายเพียงแต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งนี้เพื่อความสะดวกแก่การปล้นและยึดถือเอาทรัพย์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ , ๓๔๐, ๘๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๔๐ วรรค ๒
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยกับพวกรวม ๔ คนสมคบกันปล้นทรัพย์ โดยแบ่งหน้าที่กันทำ คือจำเลยคุมผู้เสียหาย อีก ๒ คนค้นหาทรัพย์และคนร้ายคนสุดท้ายถือปืนเฝ้าอยู่ใต้ถุนเรือน เพื่อคอยขัดขวางผู้ที่จะมาช่วยผู้เสียหาย จึงเป็นที่เห็นได้ชัดว่าจำเลยประสงค์ให้คนร้ายนี้ใช้ปืนยิงผู้ที่จะมาขัดขวางการปล้น จึงถือได้ว่าคนร้ายทั้งหมดได้ร่วมกันทำผิดโดยตลอด แล้ววินิจฉัยว่าเมื่อคนร้ายที่เฝ้าอยู่ใต้ถุนเรือนยิงนายไฮ้บาดเจ็บสาหัส จำเลยต้องมีผิด (ฐานพยายามฆ่าคน) ด้วย
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าจำเลยมีผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๔๐ วรรค ๔ และมาตรา ๒๘๘ ประกอบกับมาตรา ๘๐ แต่ให้ลงโทษตามมาตรา ๓๔๐ วรรค ๔.

Share