คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 593/2473

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเบิกความเปนพะยานต่ออำเภอว่าเขาเปนผู้ร้ายลักทรัพย์ ซึ่งความจริงจำเลยทราบแล้วว่ามิได้มีการทำผิดเกิดขึ้นเลยดังนี้ จำเลยมีผิดตาม ม.118 จำเลยรับบอกเล่าจากเจ้าทรัพย์ว่ามีผู้ร้ายลักทรัพย์ไป จึงนำความไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่าเขาเปนผู้ร้ายดังนี้ จำเลยไม่มีผิด พรบ ฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ.2461 ม.8 ศาลเดิมวางบท 118 ให้จำคุกจำเลย 2 เดือน ศาลอุทธรณ์แก้วางบท 58 ให้จำคุก 1 ปี จำเลยฎีกาได้ วิธีพิจารณาอาญา จำเลยผู้ซึ่งยังมิได้ฟังคำตัดสินมีฎีกาขึ้นมา คดีส่วนตัวจำเลยเหล่านี้ ต้องงดการวินิจฉัยไว้ก่อน

ย่อยาว

ได้ความว่า ม.และ ต. ซึ่งอยู่ในที่ของ ช. จำเลยได้มาแจ้งต่อ ข.ว่ามีผู้ร้ายลักทรัพย์ของตนไป และต่อมา ช.ได้นำ ม.และ ต.ไปแจ้งความต่ออำเภอว่า บ.เปนผู้ร้ายลักหรือชิงทรัพย์ของ ม.และ ต. และจำเลยทั้ง ๖ คน ในคดีนี้ต่างให้การเปนพะยานว่าเห็น บ.กับพวกพาทรัพย์ไปใกล้กับที่เกิดเหตุ ซึ่งข้อความเหล่านี้จำเลยได้ทราบอยู่แล้วว่ามิได้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๑๑๘ – ๑๕๘-๑๕๙
ศาลเดิมตัดสินว่า ค.น.ก. จำเลยมีผิดตาม ม.๑๑๘ ให้จำคุกไว้คนละ ๒ เดือน ส่วน ช.จ.ผ. จำเลยไม่มีผิด ให้ปล่อยตัวไป
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยทุกคนมีผิดตาม ม.๑๕๘ จึงตัดสินแก้ศาลเดิมให้จำคุกจำเลยทุกคน ๆ ละ ๑ ปี แต่ น.ณ. จำเลยยังไม่ได้ตัวมาฟังคำพิพากษา
ช.ล.ก.ผ.จ.จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินแก้ศาลอุทธรณ์ว่า ค.ก.จ.ผ. จำเลยมีผิดตาม ม.๑๑๘ ให้จำคุกไว้คนละ ๒ เดือนและในข้อที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษ ช.จำเลยด้วยนั้น ยังไม่ชอบ เพราะ ช.เปนแต่ผู้ได้รับคำบอกเล่าจาก ม. และ ต.อีกทอดหนึ่ง จึงนำความไปแจ้งต่อเจ้าพนักงาน ช. ยังไม่ควรมีผิดให้ปล่อยตัวไป ส่วน น.ณ.ยังไม่ได้ฟังคำตัดสินศาลอุทธรณ์ ให้งดการวินิจฉัยในชั้นนี้ไว้ก่อน

Share