คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5923/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ตามคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยที่ขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1มีหมายแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ระงับการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01ให้โจทก์ทั้งสามและระงับการทำนิติกรรมใด ๆ สำหรับที่ดินพิพาท เพราะหากออกเอกสารสิทธิดังกล่าวเป็นชื่อโจทก์ทั้งสามแล้ว โจทก์อาจนำที่ดินพิพาทไปทำนิติกรรมใด ๆ ทำให้จำเลยเสียหาย แต่ชั้นฎีกาจำเลยกลับฎีกาว่า โจทก์ทั้งสามจะทำการจำหน่ายจ่ายโอนที่ดินพิพาทให้เสร็จก่อนคดีจะถึงที่สุดโดยอาศัยหลักฐานการเสียภาษีซึ่งไม่ตรงตามข้ออ้างที่ระบุในคำร้อง กรณีจึงไม่มีเหตุสมควรและเพียงพอที่จะนำวิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยที่ขอนั้นมาใช้ได้

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ทั้งสามฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า ที่ดินพิพาทเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 บ้านสารภี ตำบลแสลงโทน อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้อง จำเลยให้การว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า โจทก์ทั้งสามเป็นเจ้าของที่ดินพิพาท ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง

จำเลยอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีหมายแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ สาขาประโคนชัย ระงับการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 และระงับการทำนิติกรรมใด ๆ ในที่ดินพิพาท เพราะหากเจ้าหน้าที่ออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01เป็นชื่อของโจทก์ทั้งสามแล้ว โจทก์ทั้งสามอาจนำที่ดินพิพาทไปทำนิติกรรมใด ๆ อันเป็นการจำหน่ายสิทธิได้

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งว่า ไม่มีเหตุสมควรที่จะสั่งคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยในระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ตามคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยดังกล่าว จำเลยขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีหมายแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ สาขาประโคนชัยระงับการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 ให้โจทก์ทั้งสาม และระงับการทำนิติกรรมใด ๆสำหรับที่ดินพิพาท เพราะหากออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 เป็นชื่อโจทก์ทั้งสามแล้วโจทก์อาจนำที่ดินพิพาทไปทำนิติกรรมใด ๆ ทำให้จำเลยเสียหาย แต่ชั้นฎีกาจำเลยกลับฎีกาว่า โจทก์ทั้งสามจะทำการจำหน่ายจ่ายโอนที่ดินพิพาทให้เสร็จก่อนคดีจะถึงที่สุดโดยอาศัยหลักฐานการเสียภาษี ซึ่งไม่ตรงตามข้ออ้างที่ระบุในคำร้อง ฉะนั้นจึงไม่มีเหตุสมควรและเพียงพอที่จะนำวิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยตามที่ขอนั้นมาใช้ได้ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share