คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 591/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องขอเข้าเฉลี่ยทรัพย์อ้างว่า จำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นใดอีกโจทก์คัดค้านว่าหนี้ตามคำพิพากษาที่ผู้ร้องขอเฉลี่ยนั้นเป็นหนี้สมยอมกันและจำเลยยังมีทรัพย์สินอื่นซึ่งผู้ร้องอาจเอาชำระหนี้ได้ ประเด็นตกหน้าที่ผู้ร้องต้องนำสืบก่อนว่า จำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นที่ผู้ร้องจะบังคับเอาได้อีกแล้วถ้าผู้ร้องไม่สืบพยาน ศาลยกคำร้องได้โดยไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่น

ย่อยาว

คดีนี้ เมื่อศาลยึดทรัพย์จำเลยและขายทอดตลาดเพื่อเอาเงินชำระหนี้โจทก์แล้ว ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยเงินที่ได้จากการขายทรัพย์ โดยอ้างว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ 26/2512 ขณะนี้จำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นใดเหลืออยู่อีกที่ผู้ร้องจะบังคับเอาชำระหนี้ได้

โจทก์คัดค้านว่า หนี้ตามคำพิพากษาที่ผู้ร้องขอเฉลี่ยนั้นเป็นหนี้ที่ผู้ร้องกับจำเลยสมคบหรือสมยอมกันแกล้งทำขึ้น และจำเลยยังมีทรัพย์สินอื่นอีก คือ โรงเรือนคอกหมู ไม้ เครื่องรับโทรทัศน์และรถจักรยานยนต์ (รวมประมาณ38,000 บาท) ซึ่งผู้ร้องอาจนำยึดขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ได้ ขอให้ยกคำร้อง

ในวันชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นกะประเด็น 2 ข้อ คือ (1) หนี้ตามคำพิพากษาที่ขอเฉลี่ยเกิดขึ้นโดยการสมยอมหรือไม่ (2) จำเลยมีทรัพย์สินอื่นพอที่ผู้ร้องจะบังคับเอาได้อีกหรือไม่ แล้วมีคำสั่งให้ผู้ร้องมีหน้าที่นำสืบก่อน

ก่อนวันนัด ผู้ร้องแถลงโต้แย้งคำสั่งว่า หน้าที่นำสืบตกแก่โจทก์ที่จะต้องสืบก่อนและยื่นคำแถลงอีกฉบับหนึ่ง ไม่ขอสืบพยานของตนแต่สงวนสิทธิที่จะสืบต่อไปเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เรื่องหน้าที่นำสืบ

ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานผู้ร้องและโจทก์ แล้วมีคำสั่งว่า ผู้ร้องไม่มีพยานมาไต่สวนให้ได้ความสมกับข้ออ้าง ให้ยกคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ในชั้นนี้เป็นเพียงชั้นไต่สวนว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จริงหรือไม่ ผู้ร้องมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลเมื่อไม่ติดใจสืบพยาน ก็ฟังไม่ได้ว่าเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาพิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกาว่า หน้าที่นำสืบตกโจทก์นำสืบก่อน ที่ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยเรื่องหน้าที่นำสืบเสียก่อนไม่ถูกต้อง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประเด็น 2 ข้อตามศาลชั้นต้นกะไว้นั้นโดยเฉพาะในประเด็นข้อ 2 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 วรรค 2 บัญญัติว่า “ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ห้ามมิให้ศาลอนุญาตตามคำขอเช่นว่ามานี้ เว้นแต่ศาลเห็นว่าผู้ยื่นคำขอไม่สามารถเอาชำระได้จากทรัพย์อื่น ๆ ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา” ฉะนั้นประเด็นจึงตกหน้าที่ผู้ร้องต้องนำสืบก่อนว่าจำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นที่ผู้ร้องจะบังคับเอาได้อีกแล้ว เพราะถ้าสืบในประเด็นข้อนี้ไม่ได้ ผู้ร้องก็ไม่มีสิทธิร้องขอเฉลี่ย เมื่อผู้ร้องไม่สืบพยาน ศาลก็ยกคำร้องขอเฉลี่ยได้โดยไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่น

พิพากษายืนในผลที่ให้ยกคำร้อง

Share