แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีที่ห้ามฎีกา ผู้พากษาผู้พิจารณาในศาลชั้นต้นบรรทึกมาในฎีกา “ศาลชั้นต้นลงโทษแต่ให้รอการลงโทษไว้ ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกทันที จึงเป็นเรื่องดุลยพินิจของศาลชั้นต้นเห็นด้วยความเคารพและสุจริตใจว่า ชอบที่ศาล ฎีกาจะได้ชี้ขาดเพื่อเป็นบรรทัดฐานทั้งศาลชั้นต้นก็เคยมีเรื่องศาลชั้นต้นให้รอการลงโทษ และศาลอุทธรณ์ลงโทษ ทันที แต่ศาลฎีกาให้รอไว้ดังที่ผู้ฎีกาได้อ้างมานั้น จึงเห็นควรให้รับฎีกาไว้ เพื่อศาลฎีกาจะได้พิจารณาต่อไป” ดังนี้ มิได้แสดงว่าข้อความที่ตัดสินมาเป็นปัญหาสำคัญ มิได้ แสดงว่า ผู้พิพากษาผู้พิจารณา อนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาจึงรับ ไว้พิจารณา ไม่ได้./
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยใช้ยาฉีด เข้าไปในร่างกายทารกอายุ ๖ เดือน เป็นเหตุให้ทารกนั้นตาย ทั้งนี้เป็นการฆ่าคนตาย โดยประมาท ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักณณะอาญามาตรา ๒๕๒
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก ๑ ปี ตามมาตรา ๒๕๑ ลงกึ่งหนึ่งตามมาตรา ๕๙ คงจำคุก ๖ เดือน ให้รอการลงอาญาไว้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ให้รอการลงอาญา ให้ลงโทษจำคุกจำเลย ๖ เดือน
จำเลยฎีกา
คดีนี้ผู้พิพากษาผู้พิจารณาในศาลชั้นต้นบรรทึกในฎีกาจำเลยดังนี้ “ศาลชั้นต้นลงโทษแต่ให้รอการลงโทษไว้ ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกทันที จึงเป็นเรื่องดุลยพินิจของศาล ศาลชั้นต้นเห็นด้วยความเคารพและสุจริตใจว่า ชอบที่ศาล ฎีกาจะได้ชี้ขาดเพื่อเป็นบรรทัดฐาน ทั้งศาลชั้นต้นก็เคยมีเรื่องศาลชั้นต้นให้รอการลงโทษ และศาลอุทธรณ์ลงทันที แต่ศาลฎีกาให้รอไว้ดังที่ผู้ฎีกาได้อ้างมานั้น จึงเห็นควรให้รับฎีกาไว้เพื่อศาลฎีกาจะได้พิจารณาต่อไป”
ศาลฎีกาเห็นว่า บรรทึกข้างต้นนี้มิได้แสดงว่า ข้อความที่ตัดสินมาเป็นปัญหาสำคัญ มิได้แสดงว่า ผู้พิพากษา ผู้พิจารณา อนุญาตให้ฎีกา จึงจะรับฎีกาจำเลยไว้พิจารณามิได้
จึงสั่งไม่รับฎีกาจำเลย ให้ยกเสีย./