คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5895/2551

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คำสั่งของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางที่ให้ผู้ค้ำประกันที่ 1 ที่ 2 ทำสัญญาประกันความเสียหายแก่จำเลย และนำโฉนดที่ดินมาเป็นหลักประกัน เป็นคำสั่งกำหนดให้ใช้วิธีการชั่วคราวก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา เมื่อศาลพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ โดยให้จำเลยชนะคดีและมิได้กล่าวถึงวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา และคดีถึงที่สุดแล้ว ทั้งจำเลยมิได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้โจทก์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตาม ป.วิ.พ. มาตรา 263 จึงเป็นอันยกเลิกไปตามมาตรา 260 (1) ผู้ค้ำประกันที่ 1 ที่ 2 มีสิทธิรับหลักประกันคืนไป และศาลต้องมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งอายัดที่ดินที่เป็นหลักประกัน

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสี่ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272, 273, 274, 275 และยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยึดหรืออายัดวัตถุพยานของกลางในเหตุฉุกเฉิน ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งให้อายัดเครื่องเล่นวีซีดีของกลางทั้งหมด และให้โจทก์วางหลักประกันมูลค่า 8,613,000 บาท ต่อมาวันที่ 26 มีนาคม 2546 ผู้ค้ำประกันทั้งสองทำสัญญาค้ำประกันต่อศาลในความเสียหายอันอาจเกิดจากการที่ของกลางถูกอายัดไว้ในระหว่างพิจารณาคดี โดยผู้ค้ำประกันที่ 1 นำโฉนดที่ดินเลขที่ 4476 มาวางเป็นหลักประกัน ส่วนผู้ค้ำประกันที่ 2 นำโฉนดที่ดินเลขที่ 54860, 54861 มาวางเป็นหลักประกัน ต่อมาวันที่ 27 ธันวาคม 2547 ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้องและคดีถึงที่สุดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2548
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2549 ผู้ค้ำประกันทั้งสองยื่นคำร้องต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ขอคืนโฉนดที่ดินที่นำมาเป็นหลักประกัน เนื่องจากคดีถึงที่สุดแล้ว ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง มีคำสั่งในวันดังกล่าวว่า สำเนาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 หากจะคัดค้านประการใดให้คัดค้านเข้ามาภายใน 7 วัน มิฉะนั้นจะถือว่าไม่ติดใจคัดค้าน และหากคัดค้านให้แสดงหลักฐานการอายัดหลักประกันหนี้ หากไม่คัดค้านหรือไม่มีหลักฐานแสดงการอายัดหลักประกันดังกล่าว ก็ให้ตรวจคืนหลักประกันตามระเบียบ ให้นำส่งสำเนาคำร้องให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นหมายศาลปิดหมาย จำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้ยื่นคำร้องคัดค้านอ้างว่า จำเลยที่ 1 ฟ้องโจทก์และผู้ค้ำประกันทั้งสองต่อศาลแพ่งเป็นคดีหมายเลขดำที่ 872/2548 ฐานละเมิดและขอคุ้มครองชั่วคราว โดยขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดที่ดินต่อไปจนกว่าคดีดังกล่าวจะถึงที่สุด
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งในวันที่ 6 มิถุนายน 2549 ว่า สัญญาค้ำประกันฉบับลงวันที่ 26 มีนาคม 2546 ที่ผู้ร้องทำสัญญาไว้ มีลักษณะเป็นการประกันความเสียหายในของกลางที่ถูกอายัดไว้ ดังนั้น เมื่อมีการฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายและคดียังไม่ถึงที่สุด จึงไม่อาจคืนหลักประกันได้ ให้ยกคำร้อง
ผู้ค้ำประกันที่ 1 และที่ 2 อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้ารหว่างประเทศวินิจฉัยว่า “ผู้ค้ำประกันที่ 1 ที่ 2 อุทธรณ์ว่า เดิมศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งคำร้องของผู้ค้ำประกันที่ 1 ที่ 2 ลงวันที่ 27 เมษายน 2549 ครั้งแรกให้คืนหลักประกัน ต่อมากลับมีคำสั่งใหม่ให้ยกคำร้อง จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบและจำเลยซึ่งเป็นฝ่ายชนะคดี มิได้ดำเนินการยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้โจทก์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ตน ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 263 จึงขอให้คืนหลักประกันแก่ผู้ค้ำประกันที่ 1 ที่ 2 เห็นว่า การที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งให้ผู้ค้ำประกันที่ 1 ที่ 2 ทำสัญญาประกันความเสียหายแก่จำเลย และนำโฉนดที่ดินมาเป็นหลักประกันเป็นคำสั่งที่กำหนดให้ใช้วิธีการชั่วคราวก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา เมื่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ โดยให้จำเลยชนะคดีและมิได้กล่าวถึงวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา และคดีถึงที่สุดแล้ว ทั้งจำเลยมิได้ดำเนินการยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้โจทก์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ตามที่บังคับไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 263 คำสั่งของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวแก่ผู้ค้ำประกันที่ 1 ทึ่ 2 จึงเป็นอันยกเลิกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260 (1) ผู้ค้ำประกันที่ 1 ที่ 2 จึงมีสิทธิรับหลักประกันคืนไป และศาลต้องมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งอายัดที่ดินที่เป็นหลักประกัน ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ค้ำประกันที่ 1 ที่ 2 โดยไม่คืนหลักประกัน อ้างว่ายังมีคดีแพ่งฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายและคดียังไม่ถึงที่สุด คดีดังกล่าวก็มิได้เกี่ยวข้องกับคดีนี้ซึ่งถึงที่สุดแล้วศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่เห็นพ้องด้วย”
พิพากษากลับว่า ให้คืนหลักประกันแก่ผู้ค้ำประกันที่ 1 ที่ 2 และให้มีหนังสือแจ้งเพิกถอนคำสั่งอายัดที่ดินดังกล่าว

Share