แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
การที่โจทก์กับมูลนิธิ ท. ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่าโจทก์ตกลงชำระเงิน 7,500,000 บาท แก่มูลนิธิ ท. โดยมีเงื่อนไขว่า มูลนิธิ ท. จะไม่ขอรับเงินจำนวนดังกล่าวที่โจทก์นำมาวางศาลจนกว่าคดีหมายเลขดำที่ ทป. 83/2541 จะมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่า มูลนิธิ ท. จำเลย และ ส. จะได้รับเงินฝ่ายละเท่าใดเช่นนี้ ย่อมหมายความว่า ส่วนแบ่งของจำเลยในเงิน 7,500,000 บาท ยังไม่แน่นอนจนกว่าคดีดังกล่าวจะถึงที่สุด ดังนี้ แม้โจทก์จะรับว่าโจทก์เป็นลูกหนี้จำเลยและยินยอมให้จำเลยนำหนี้ดังกล่าวมาหลักกลบลบหนี้ได้ตามหนังสือรับสภาพหนี้ก็ตาม แต่เมื่อสิทธิเรียกร้องของจำเลยยังมีข้อต่อสู้อยู่ จำเลยย่อมไม่อาจนำหนี้ดังกล่าวมาหักกลบลบหนี้ตามฟ้องได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 344
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2542 จำเลยได้ทำสัญญาอนุญาตให้โจทก์ใช้สิทธิ์ในผลงานเทปคำทำนายดวงชะตา “หมอหยอง แผนที่ชีวิต พ.ศ.2543 (7 สี 7 อารมณ์)” กำหนดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2542 ถึงวันที่ 5 พฤศจิกายน 2543 โจทก์ตกลงจ่ายค่าตอบแทนตามจำนวนสินค้าที่จำหน่ายได้ จำเลยได้ขอเบิกค่าลิขสิทธิ์ล่วงหน้าจากโจทก์ 5 ครั้ง รวมเป็นเงิน 4,299,745.18 บาท เมื่อครบกำหนดเวลา โจทก์สรุปยอดและหักทอนค่าลิขสิทธิ์ตามสัญญา ยอดจำหน่ายทั้งสิ้น 72,057 หน่วย (ม้วน) คงเหลือสินค้าประเภทเทป (MC) รวมจำนวน 32,943 หน่วย (ม้วน) จำเลยมีสิทธิได้รับค่าลิขสิทธิ์จากโจทก์จำนวน 3,315,342.57 บาท แต่โจทก์ได้จ่ายค่าลิขสิทธิ์ล่วงหน้าแล้วจำนวน 4,299,745.18 บาท จำเลยจึงต้องคืนเงินค่าลิขสิทธิ์ที่รับไปจากโจทก์ 984,402 บาท และค่าใช้จ่ายในการผลิตสินค้าในส่วนที่ไม่สามารถจำหน่ายได้คิดเป็นเงิน 456,387 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,440,789 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่สัญญาสิ้นสุดลง ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 1,754,604.60 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 1,440,789 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า เดิมจำเลยเป็นหนี้ที่จะต้องชำระให้โจทก์ตามฟ้อง แต่หนี้ดังกล่าวได้ระงับหมดสิ้นแล้ว เนื่องจากประมาณปี 2541 โจทก์มีหนี้ค้างชำระกับจำเลยเป็นค่าลิขสิทธิ์เทปอีก 1 ชุด ชื่อชุด “7 สี 7 อารมณ์ ปีเสือทมิฬ” โจทก์มีหนังสือถึงจำเลยตกลงรับชำระหนี้ด้วยวิธีหักกลบลบหนี้กัน จำเลยจึงไม่มีหนี้ใดที่จะต้องชำระแก่โจทก์ตามฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 1,754,604.60 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 1,440,789 บาท นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 4 พฤศจิกายน 2547) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 50,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า “…พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า จำเลยทำสัญญาอนุญาตให้โจทก์ใช้ลิขสิทธิ์ในผลงานเทปคำทำนายดวงชะตา หมอหยอง แผนที่ชีวิต พ.ศ.2543 (7 สี 7 อารมรณ์) ของจำเลย โดยโจทก์เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเทปดังกล่าว จำเลยรับค่าลิขสิทธิ์ล่วงหน้าไปจากโจทก์หลายครั้ง เมื่อครบกำหนดเวลาตามสัญญา ได้สรุปยอดขายและหักค่าใช้จ่ายแล้ว จำเลยเป็นหนี้โจทก์ 1,440,789 บาท ต่อมาโจทก์และจำเลยตกลงทำหนังสือรับสภาพหนี้มีข้อความว่า จำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ตามจำนวนดังกล่าว กับโจทก์รับว่า โจทก์เป็นลูกหนี้จำเลยจากการค้างชำระค่าลิขสิทธิ์เทปคำทำนายดวงชะตาชุด 7 สี 7 อารมณ์ ปีเสือทมิฬ ซึ่งจัดจำหน่ายเมื่อปี 2541 เป็นเงิน 7,500,000 บาท แล้วมีข้อตกลงร่วมกันให้หักกลบลบหนี้ได้ ตามหนังสือรับสภาพหนี้ คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่า จำเลยมีสิทธินำหนี้จำนวน 1,440,789 บาท ตามฟ้องไปหักกลบลบหนี้กับหนี้จำนวน 7,500,000 บาท ที่โจทก์รับว่าเป็นลูกหนี้จำเลยตามหนังสือรับสภาพหนี้ได้หรือไม่ ปัญหาดังกล่าว โจทก์และจำเลยต่างนำสืบข้อเท็จจริงรับกันฟังได้ว่า เดิมเมื่อปี 2541 จำเลยทำสัญญาอนุญาตให้มูลนิธิทีวีพูลใช้ลิขสิทธิ์ในผลงานเทปคำทำนายดวงชะตา 7 สี 7 อารมณ์ ปีเสือทมิฬ (ปี 2541) แล้วมูลนิธิทีวีพูลทำสัญญาอนุญาตให้โจทก์เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเทปชุดดังกล่าว แต่โจทก์มิได้ชำระค่าลิขสิทธิ์ให้แก่มูลนิธิทีวีพูลทั้งมูลนิธิทีวีพูลก็มีข้อพิพาทกับจำเลยเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ในเทปชุดนี้ ซึ่งต่อมา มูลนิธิทีวีพูลเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นจำเลย ให้ชำระค่าลิขสิทธิ์จากการผลิตและจำหน่ายเทปคำทำนายดวงชะตาชุด 7 สี 7 อารมณ์ ปีเสือทมิฬ (ปี 2541) ตามคดีหมายเลขดำที่ ทป. 24/2541 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง แล้วได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยโจทก์ตกลงชำระเงิน 7,500,000 บาท ให้แก่มูลนิธิทีวีพูล แต่มีเงื่อนไขว่า มูลนิธิทีวีพูลจะยังไม่รับเงินจำนวนดังกล่าวที่โจทก์นำมาวางศาลจนกว่าคดีหมายเลขดำที่ ทป. 83/2541 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ที่มูลนิธิทีวีพูลกับพวกเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยคดีนี้กับนายสุริยันเรียกค่าเสียหายจากการผิดสัญญาให้ใช้ลิขสิทธิ์ในเทปคำทำนายดวงชะตา ชุด 7 สี 7 อารมณ์ ปีเสือทมิฬ (ปี 2541) จะมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่ามูลนิธิทีวีพูลหรือจำเลยคดีนี้กับนายสุริยันเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินฝ่ายละเท่าไร ดังปรากฏตามสำเนาสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอม ที่จำเลยอุทธรณ์ว่าจำเลยมีสิทธิที่จะได้รับส่วนแบ่งในเงินจำนวน 7,500,000 บาท ตามที่โจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับมูลนิธิทีวีพูลเป็นจำนวน1 ใน 4 ซึ่งเป็นหนี้ที่กำหนดจำนวนแน่นอน มิได้เป็นหนี้ที่ยังมีเงื่อนไขหรือข้อต่อสู้นั้น เห็นว่า ตามข้อตกลงในปัญญาประนีประนอมยอมความ ข้อ 2 ระบุเงื่อนไขว่า มูลนิธิทีวีพูลจะไม่ขอรับเงินที่โจทก์คดีนี้นำมาวางศาลจนกว่าคดีหมายเลขดำที่ ทป. 83/2541 จะมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่า มูลนิธิทีวีพูลหรือจำเลยคดีนี้กับนายสุริยันเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินฝ่ายละเท่าไร เช่นนี้ ย่อมมีความหมายว่า จำเลยจะมีสิทธิได้รับเงินส่วนแบ่งจากจำนวน 7,500,000 บาท ตามสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งเป็นเงินจำนวน 7,500,000 บาท ตามสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งเป็นเงินจำนวนเดียวกับเงินตามหนังสือรับสภาพหนี้เป็นจำนวนเท่าไร ต้องรอฟังผลของคดีหมายเลขดำที่ ทป. 83/2541 ถึงที่สุดเสียก่อน แม้โจทก์จะรับว่าเป็นลูกหนี้จำเลยและยอมให้หักกลบลบหนี้กันได้ตามหนังสือรับสภาพหนี้ก็ตาม แต่เมื่อสิทธิเรียกร้องของจำเลยที่จะเอาส่วนแบ่งจากเงินจำนวน 7,500,000 บาท ตามจำนวนที่โจทก์ทำสัญญาประนีประนอมชำระให้แก่มูลนิธิทีวีพูลยังมีข้อต่อสู้อยู่จึงย่อมไม่อาจนำมาหักกลบลบหนี้กับหนี้ตามฟ้องได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 344 ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ตามฟ้องจึงชอบแล้ว อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน