คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5877/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์อ้างผู้ที่จำเลยใช้ให้กระทำความผิดซึ่งถูกฟ้องในอีกคดีหนึ่งมาเป็นพยานโจทก์ในคดีที่จำเลยถูกฟ้องฐานเป็น ผู้ใช้ได้ ไม่ถือว่าเป็นการอ้างจำเลยเป็นพยานอันต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 232
ศาลจะสั่งริบของกลางซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้ริบไว้แล้วในอีกคดีหนึ่งไม่ได้
เมื่อปรับบทลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 แล้วก็ไม่ต้องปรับบทลงโทษตามมาตรา 288 อีก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ให้นายวิมล สว่างวัล และนายสุวิทย์ ทองวรรณ ฆ่านางจันทร์เพ็ญ กล้าหาญ ผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและนายวิมลกับนายสุวิทย์ได้ร่วมกันฆ่าผู้ตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๒๘๙, ๘๓, ๘๔ และริบกระดาษเขียนแผนที่ ปลอกกระสุนปืนและหมอนกระสุนปืนของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๒๘๙, ๘๓, ๘๔ วางโทษประหารชีวิต จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้ ๑ ใน ๓ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ จำคุกจำเลยทั้งสองตลอดชีวิต ริบของกลาง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์อ้างนายวิมล สว่างวัล ซึ่งเป็นผู้ที่จำเลยทั้งสองใช้ให้ไปยิงผู้ตายและถูกฟ้องข้อหาฆ่าผู้ตายในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๗๘๙/๒๕๒๖ ของศาลชั้นต้นเป็นพยาน ไม่ได้อ้างจำเลยทั้งสองเป็นพยานของโจทก์ จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๓๒ และฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดตามฟ้อง แล้ววินิจฉัยว่าที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ริบของกลางไม่ชอบ เพราะศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ริบของกลางดังกล่าวไว้แล้วในอีกคดีหนึ่ง ในคดีนี้จึงจะมีคำสั่งให้ริบอีกไม่ได้ และเมื่อฟังจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๙ แล้ว ก็ไม่จำต้องปรับบทลงโทษตามมาตรา ๒๘๘ อีก
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ (๔) ประกอบด้วยมาตรา ๘๔ และไม่ริบของกลางนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share