คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5874/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

วันพ้นโทษปรับนับแต่วันที่จำเลยชำระค่าปรับครบถ้วน จำเลยเคยต้องโทษปรับตามพระราชบัญญัติการพนัน พ้นโทษปรับแล้วยังไม่ครบ 3 ปี มากระทำผิดตามพระราชบัญญัติการพนันอีก ศาลวางโทษทั้งจำทั้งปรับในคดีหลังได้ ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478มาตรา 14 ทวิ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งเจ็ดตามพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 6, 10, 12, 14 ทวิ, 15 ที่แก้ไขแล้วริบของกลาง จ่ายเงินสินบนแก่ผู้นำจับตามกฎหมาย และจำเลยที่ 2เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ปรับฐานเล่นการพนันไฮโลว์ พ้นโทษมาแล้วยังไม่ครบกำหนด 3 ปี กลับมากระทำความผิดในคดีนี้อีกขอให้วางโทษทั้งจำทั้งปรับ
จำเลยทั้งเจ็ดให้การรับสารภาพ และจำเลยที่ 2 รับว่าเคยต้องคำพิพากษาปรับตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 6, 10, 12, 14 ทวิ, 15 ที่แก้ไขแล้วจำเลยให้การสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 คนละ 2 เดือน ปรับคนละ1,000 บาท สำหรับจำเลยที่ 1 ปรับข้อหาเข้าเล่นอีก 500 บาทรวมทั้งจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 เดือน ปรับ 1,500 บาท นอกนั้นให้ปรับคนละ 500 บาท โทษจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 ให้รอการลงโทษไว้มีกำหนดคนละ 1 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้บังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ของกลางริบ ให้จำเลยจ่ายเงินสินบนนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับแก่ผู้นำจับ จำเลยที่ 2 ถูกศาลพิพากษาปรับในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 541/2531 มิใช่โทษจำคุกไม่ถือว่าจำเลยที่ 2 พ้นโทษตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติการพนันมาตรา 14 ทวิ จึงไม่อาจวางโทษจำเลยที่ 2 ทั้งจำทั้งปรับ คำขอส่วนนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ขอให้วางโทษจำเลยที่ 2 ทั้งจำทั้งปรับตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การปรับถือเป็นโทษอย่างหนึ่งในจำพวกโทษทั้ง 5 ชนิด ที่ลงแก่ผู้กระทำผิดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18(4) เมื่อศาลลงโทษปรับจำเลยและมีการชำระค่าปรับครบถ้วนแล้วในวันเวลาใด ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้พ้นโทษปรับนับแต่วันที่ชำระค่าปรับนั้นแล้ว ฉะนั้นหากจำเลยที่ 2 พ้นโทษปรับแล้วยังไม่ครบกำหนด 3 ปี มากระทำผิดต่อพระราชบัญญัติการพนันนี้อีก จึงเข้าหลักเกณฑ์ต้องเพิ่มโทษตามวิธีการที่พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2474 มาตรา 14 ทวิที่แก้ไขแล้วบัญญัติไว้ในอนุมาตรา (1) หรือ (2) แล้วแต่กรณีที่ศาลล่างทั้งสองไม่ลงโทษจำเลยที่ 2 ตามมาตรา 14 ทวิ (2) นั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า ลงโทษจำเลยที่ 2 ตามพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. 2478 มาตรา 14 ทวิ (2) ที่แก้ไขแล้ว โดยให้วางโทษทั้งจำทั้งปรับ ให้จำคุก 6 เดือน ปรับ 3,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 1,500บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share