คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 587/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลย 2 คน ได้ร่วมรู่กับคนร้าย ไปในการปล้นทรัพย์ แต่ไม่ได้ไปลงมือทำการปล้นด้วยเป็นการแต่นั่งรอยู่ในรถ ยนต์ ซึ่งคนร้ายใช้เป็นพาหนะไปปล้น จอดอยู่ห่างที่เกิดเหตุราว 20 เส้น เมื่อคนร้ายปล้นได้ทรัพย์แล้ว ก็มาขึ้นรถ จำเลยทั้งสิงก็กลับมารถพร้อมกัน จำเลยคนหนึ่งเป็นคุณขับรถยนต์นั้น ดังนี้ ต้องถือว่าจำเลยทั้ง 2 ได้กระทำการ อุดหนุนแก่ผู้กระทำผิดในการปล้นทรัพย์ มีผิดฐานสมรู้ ยังไม่ถึงขั้นเป็นตัวการ./

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยกับพวกที่หลบหนีรวมประมาณ ๘ – ๙ คน ได้สมคบกันปล้นทรัพย์นายน้อย นางพยอม ขอให้ลง โทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษว่า จำเลยทุกคนมีผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๐๑ ที่แก้ไขเพิ่มเติม ก.ม.ลักษณะอาญา ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
นายต๋อย นายแฉล้ม นายสวัสดิ์ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว คงฟังข้อเท็จจริงว่า นายต๋อยจำเลยได้ไปด้วยกับพวกปล้น โดยเป็นคนขับรถทั้งไปและกลับ นาย สวัสดิ์และนายแฉล้มจำเลย ก็ได้ไปกับพวกปล้นรายนี้ด้วยดุจกัน แต่ไม่ได้ไปทำการปล้น เป็นแต่นั่งคอยอยู่ในรถกับ นายต๋อยจำเลย.
สำหรับนายสวัสดิ์จำเลย โจทก์ไม่ได้สืบถึงข้อพิรุธที่เกี่ยวกับนายสวัสดิ์จำเลยแต่อย่างใด นายสวัสดิ์จำเลยอาจจะไม่ได้ ร่วมรู้ในการปล้นก็ได้ กรณียังเป็นที่สงสัยอยู่ควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้เป็นผลดีแก่นายสวัสดิ์จำเลย
ส่วนนายต๋อย นายแฉล้มจำเลยนั้น ปรากฎว่าได้ร่วมรู้ไปในการปล้นทรัพย์ด้วย แต้จะไม่ได้ไปลงมือทำการปล้นด้วย เป็น แต่นั่งรออยู่ในรถยนต์ ซึ่งคนร้ายใช้เป็นพาหนะไปปล้นจอดอยู่ห่างที่เกิดเหตุราว ๒๐ เส้นเศษ เมื่อคนร้ายปล้นได้ ทรัพย์แล้วก็มาขึ้นรถ จำเลยทั้งสองก็กลับมากับรถพร้อมกัน โดยนายต๋อยเป็นคนขับ เห็นว่า การกระทำของจำเลยทั้งสอง เท่าที่กล่าวมา ต้องถือว่า จำเลยได้กระทำการอุดหนุนแก่ผู้กระทำผิดในการปล้นทรัพย์มีผิดเพียงฐานสมรู้ ยังไม่ถึงขึ้น เป็นตัวการ
จึงพิพากษาแก้ว่า นายต๋อย นายแฉล้มจำเลยผิดตามมาตรา ๓๐๑ – ๖๕ ฯลฯ ปล่อยนายสวัสดิ์ไป นอกจากนี้คงยืน./

Share