คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5868/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การปรับถือเป็นโทษอย่างหนึ่งในจำพวกโทษทั้ง 5 ชนิดที่ลงแก่ผู้กระทำผิดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 18(4) เมื่อศาลลงโทษปรับจำเลยและมีการชำระค่าปรับครบถ้วนแล้วในวันเวลาใด ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้พ้นโทษนับแต่วันที่ชำระค่าปรับนั้นแล้ว ฉะนั้น หากจำเลยพ้นโทษปรับแล้วยังไม่ครบ3 ปี มากระทำผิดต่อพระราชบัญญัติการพนันนี้อีก จึงเข้าหลักเกณฑ์ต้องวางโทษตามวิธีการที่พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478มาตรา 14 ทวิ (1) หรือ (2) บัญญัติไว้โดยต้องวางโทษจำเลยทั้งจำทั้งปรับ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งหกกับพวกที่หลบหนีร่วมกันเล่นการพนันเปี้ยโบก อันเป็นการพนันตามบัญชี ก.อันดับที่ 8 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่มีพระราชกฤษฎีกาอนุญาตให้เล่นได้ ก่อนคดีนี้จำเลยที่ 1 เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลชั้นต้นให้ปรับ 600 บาท ฐานเล่นการพนันไฮโล ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 378/2531 จำเลยที่ 1 พ้นโทษให้คดีดังกล่าวมาแล้วยังไม่พ้นกำหนด 3 ปี กลับมากระทำความผิดในคดีนี้อีก ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 6, 10, 12,14 ทวิ, 15 พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2485พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2490 มาตรา 3 พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2504 มาตรา 3 ริบของกลาง จ่ายเงินสินบนแก่ผู้นำจับตามกฎหมาย และวางโทษทั้งจำทั้งปรับจำเลยที่ 1 ในคดีนี้ด้วย
จำเลยทั้งหกให้การรับสารภาพ และจำเลยที่ 1 รับว่าเคยต้องคำพิพากษาศาลชั้นต้นลงโทษปรับ 600 ฐานเล่นการพนันไฮโลตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 374/2531 จริงตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 6, 10, 12, 15 พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2490 มาตรา 3 พระราชบัญญัติการพนัน(ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2504 มาตรา 3 จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ปรับคนละ 600 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้บังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ของกลางริบให้จำเลยจ่ายเงินสินบนนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับแก่ผู้นำจับ จำเลยที่ 1 ถูกศาลชั้นต้นลงโทษปรับ มิใช่โทษจำคุก จึงมิใช่กรณีพ้นโทษตามพระราชบัญญัติการพนันฯ มาตรา 14 ทวิ ศาลไม่อาจวางโทษทั้งจำทั้งปรับได้ คำขอในส่วนนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ขอให้วางโทษจำเลยที่ 1 ทั้งจำทั้งปรับ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายขอให้วางโทษทั้งจำทั้งปรับจำเลยที่ 1 ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา14 ทวิ พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2485 มาตรา 3 ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายนั้น ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่พระราชบัญญัติได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน คดีนี้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 เคยต้องโทษฐานเล่นการพนันไฮโล ศาลพิพากษาปรับ 600 บาท จำเลยที่ 1 พ้นโทษมายังไม่ครบกำหนด 3 ปี กลับมากระทำผิดในคดีนี้อีก ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยมีว่า จะวางโทษจำเลยที่ 1 ทั้งจำทั้งปรับตามพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. 2478 มาตรา 14 ทวิ (2) ที่แก้ไขแล้วได้หรือไม่ พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 14 ทวิ ที่แก้ไขแล้วบัญญัติว่า “ผู้ใดกระทำความผิดต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัตินี้ เมื่อพ้นโทษแล้วยังไม่ครบกำหนดสามปี กระทำความผิดต่อพระราชบัญญัตินี้อีก (1)…(2)ถ้าโทษซึ่งกำหนดไว้สำหรับความผิดที่กระทำครั้งหลังเป็นโทษจำคุกหรือปรับให้วางโทษทั้งจำทั้งปรับ”
ศาลฎีกาเห็นว่า การปรับถือเป็นโทษอย่างหนึ่งในจำพวกทั้ง5 ชนิด ที่ลงแก่ผู้กระทำผิดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 18(4) เมื่อศาลลงโทษปรับจำเลยและมีการชำระค่าปรับครบถ้วนแล้วในวันเวลาใด ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้พ้นโทษนับแต่วันที่ชำระค่าปรับนั้นแล้ว ฉะนั้น หากจำเลยพ้นโทษแล้วยังไม่ครบกำหนด 3 ปี มากระทำผิดต่อพระราชบัญญัติการพนันนี้อีก จึงเข้าหลักเกณฑ์ต้องวางโทษตามวิธีการที่พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 14 ทวิที่แก้ไขแล้วบัญญัติไว้ในอนุมาตรา (1) หรือ (2) แล้วแต่กรณี ที่ศาลล่างทั้งสองไม่วางโทษจำเลยที่ 1 ทั้งจำทั้งปรับนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้วางโทษจำเลยที่ 1 ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 14 ทวิ (2 ) ที่แก้ไขแล้ว โดยให้วางโทษทั้งจำทั้งปรับ ให้จำคุก 2 เดือน ปรับ 1,200 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 600 บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามมาตาตรา 29, 30 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share