แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การให้หรือคำมั่นว่าจะให้ที่ดินจะต้องได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงบังคับกันได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา526บันทึกข้อตกลงระหว่างป. กับจำเลยที่ระบุว่าจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของที่พิพาทยินยอมยกที่ดังกล่าวส่วนหนึ่งให้โจทก์ด้วยแต่มิได้จดทะเบียนจึงไม่มีผลผูกพันจำเลยโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาที่พิพาทโดยอาศัยบันทึกดังกล่าวได้
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ นาย ประเสริฐคุณ และนางระวิวรรณ เป็น บุตร ของ นาง แดง จำเลย เป็น บุตร ของ นาย แดง แต่ เกิดจาก บิดา ต่างกัน นาง แดง ถึงแก่ความตาย เมื่อ วันที่ 13 ตุลาคม 2521 มี ทรัพย์มรดก เป็น ที่ดิน 2 แปลง คือ ที่ดิน ตาม โฉนด เลขที่ 3946 เนื้อที่ 16 ไร่ 2 งาน93 ตารางวา และ ที่ดิน ตาม หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก. )เลขที่ 494 พร้อม บ้าน 1 หลัง โจทก์ จำเลย นาย ประเสริฐคุณ และ นาง ระวิวรรณ ต่าง ครอบครอง ร่วมกัน มา ตลอด ต่อมา เมื่อ วันที่ 16 พฤษภาคม 2526 จำเลย ได้ ทำ บันทึก ไว้ ต่อ นายอำเภอ มหา ชนะ ชัยว่า จำเลย ตกลง ยก ที่ดิน ตาม โฉนด เลขที่ 3946 จำนวน เนื้อที่ 8 ไร่2 งาน 93 ตารางวา ให้ แก่ โจทก์ นาย ประเสริฐคุณ และ นาง ระวิวรรณ ส่วน ที่ เหลือ อีก 8 ไร่ ตก ได้ แก่ จำเลย สำหรับ ที่ดิน ตาม หนังสือ รับรองการ ทำประโยชน์ (น.ส.3 ก. ) เลขที่ 494 จำเลย ยกให้ โจทก์นาย ประเสริฐคุณ และ นาง ระวิวรรณ ส่วน จำเลย ขอรับ เอา บ้าน ซึ่ง ปลูก อยู่ บน ที่ดิน แปลง นี้ หลังจาก ทำ บันทึก แล้ว จำเลย ยอม ยก ที่ดิน ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก. ) เลขที่ 494 ให้ แก่ โจทก์นาย ประเสริฐคุณ และ นาง ระวิวรรณ เท่านั้น แต่ ที่ดิน ตาม โฉนด เลขที่ 3946 จำเลย ไม่ได้ ยกให้ แก่ โจทก์ โจทก์ ทวงถาม จำเลย ก็ บ่ายเบี่ยงเรื่อย มา ขอให้ จำเลย ไป จดทะเบียน แบ่งแยก ที่ดิน ตาม โฉนด เลขที่ 3946เนื้อที่ 2 ไร่ 3 งาน 64 ตารางวา ให้ แก่ โจทก์ หาก จำเลย ไม่ปฏิบัติให้ ถือเอา คำพิพากษา แทน การแสดง เจตนา ของ จำเลย
จำเลย ให้การ ว่า ที่ดิน ตาม โฉนด เลขที่ 3946 ไม่ใช่ มรดก ของนาง แดง เพราะ นาง แดง ยกให้ แก่ จำเลย ตั้งแต่ นาง แดง ยัง มี ชีวิต อยู่ จำเลย ถูก นาย ประเสริฐคุณ ข่มขู่ ว่า นาง ระวิวรรณ ได้ ร้องเรียน ต่อ ทาง ราช (ป.ป.ป.) กล่าวหา ว่า ปลัดอำเภอ คนหนึ่ง ของ อำเภอ มหา ชนะ ชัยปฏิบัติ หน้าที่ โดยมิชอบ ได้ ทำการ เปลี่ยน ชื่อ มารดา ของ นาง ระวิวรรณ ใน ทะเบียนบ้าน ทางราชการ ได้ ตั้ง กรรมการ ขึ้น สอบสวน เพื่อ เอาผิด กับปลัดอำเภอ คน นั้น และ จำเลย มี ส่วน รู้เห็น ด้วย โดย หวัง จะ เอา มรดก ของนาง แดง คนเดียว จะ ให้ นาง ระวิวรรณ ฟ้อง จำเลย ถ้า ไม่ อยาก ให้ ฟ้อง ก็ ให้ จำเลย ยอม แบ่ง ที่ดิน ให้ แก่ นาย ประเสริฐคุณ โจทก์ และ นาง ระวิวรรณ จำเลย กลัว และ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึง ได้ ยอม ทำ บันทึก ฉบับ ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2526 หลังจาก นั้น จำเลย ทราบ จากนาง ระวิวรรณ ว่า ไม่เคย รู้ เรื่อง ที่นาย ประเสริฐคุณ ข่มขู่ จึง ได้ มี หนังสือ ขอ ยกเลิก บันทึก ดังกล่าว ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลย ไป จดทะเบียน แบ่งแยก ที่ดิน ตาม โฉนดที่ดิน เลขที่ 3946 ตำบล โพนทัน อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัด อุบลราชธานี (ปัจจุบัน จังหวัด ยโสธร ) เนื้อที่ 2 ไร่ 3 งาน 64ตารางวา ให้ โจทก์ หาก ไม่ไป ให้ ถือเอา คำพิพากษา แทน การแสดง เจตนาของ จำเลย
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้อง
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “สำหรับ ปัญหา ประการ ที่ สอง ที่ ว่า บันทึกข้อตกลง ระหว่าง นาย ประเสริฐคุณ กับ จำเลย เกี่ยวกับ ที่พิพาท ตาม เอกสาร หมาย จ. 2 มีผล บังคับ ได้ ตาม กฎหมาย ที่ โจทก์ จะ ถือเอา ประโยชน์จาก บันทึก ดังกล่าว ได้ หรือไม่ นั้น เห็นว่า ข้อความ ใน ข้อ 1. ของ เอกสารดังกล่าว ระบุ ชัดแจ้ง ว่า จำเลย เป็น เจ้าของ ที่พิพาท เนื้อที่ 16 ไร่2 งาน 93 ตารางวา และ จำเลย ยินยอม ยก ที่พิพาท เนื้อที่ 8 ไร่ 2 งาน93 ตารางวา ให้ แก่ น้อง 3 คน ใน จำนวน นี้ มี ชื่อ โจทก์ รวม อยู่ ด้วยคนหนึ่ง การ ให้ หรือ คำมั่น ว่า จะ ให้ ทรัพย์สิน จะ ต้อง ได้ ทำ เป็น หนังสือและ จดทะเบียน ต่อ พนักงาน เจ้าหน้าที่ จึง จะ บังคับ กัน ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 526 แต่ บันทึก ข้อตกลง ตามเอกสาร หมาย จ. 2 มิได้ จดทะเบียน จึง ไม่มี ผล ผูกพัน จำเลย โจทก์ ไม่มีสิทธิเรียกร้อง เอา ที่พิพาท โดย อาศัย บันทึก ดังกล่าว ได้ ที่ ศาลอุทธรณ์พิพากษายก ฟ้องโจทก์ ชอบแล้ว ฎีกา โจทก์ ฟังไม่ขึ้น ”
พิพากษายืน