แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ทวิ บัญญัติให้ปรับเป็นเงินสี่เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วจึงต้อปรับเป็นสี่เท่าของราคาของและค่าอากรรวมกัน มิใช่ปรับสี่เท่าเฉพาะราคาของอย่างเดียวแล้วบวกค่าอากร
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469มาตรา 27, 27 ทวิ, 32 พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482มาตรา 16, 17 พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2490มาตรา 3 พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2499 มาตรา 4พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด พ.ศ. 2489มาตรา 4, 5, 6, 7, 8, 9 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33ริบของกลาง จ่ายเงินสินบนแก่ผู้นำจับ และจ่ายเงินรางวัลแก่เจ้าพนักงานผู้จับตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ทวิ ปรับ 291,200 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับ 145,600 บาทของกลางริบ จ่ายสินบนร้อยละสามสิบของราคาของกลางแก่ผู้นำจับจ่ายเงินรางวัลร้อยละสิบห้าของราคาของกลางแก่เจ้าพนักงานผู้จับศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาในชั้นนี้เฉพาะเรื่องโทษปรับว่าศาลอุทธรณ์ภาค 3 คิดคำนวณค่าปรับโดยไม่ถูกต้องและไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ พิเคราะห์แล้ว พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469มาตรา 27 ทวิ บัญญัติให้ปรับเป็นเงินสี่เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว ดังนี้จึงต้องปรับเป็นสี่เท่าของราคาของและค่าอากรรวมกัน หาใช่ปรับสี่เท่าเฉพาะราคาของอย่างเดียวแล้วบวกค่าอากรดังที่จำเลยฎีกาไม่ ปรากฏว่าบุหรี่ต่างประเทศที่จำเลยหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากรราคารวม 45,500 บาท ต้องเสียอากรขาเข้าเป็นเงิน 27,300 บาท รวมราคาค่าของกับค่าอากรเข้าด้วยกันเป็นเงิน72,800 บาท ลงโทษปรับสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วเป็นเงิน 291,200 บาท เมื่อลดโทษกึ่งหนึ่งแล้วเป็นเงิน145,600 บาท การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้ปรับจำเลยเป็นเงิน 145,600 บาท นั้น จึงชอบแล้ว”
พิพากษายืน
