คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5859/2562

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ยื่นขอรังวัดสอบเขตที่ดินของโจทก์ แต่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินข้างเคียงยื่นคัดค้านการรังวัด และยังยื่นขอรังวัดสอบเขตที่ดินของจำเลยโดยนำชี้รังวัดรุกล้ำที่ดินของโจทก์ทั้งแปลง ดังนี้ แม้การยื่นคำคัดค้านของจำเลยจะเป็นการใช้สิทธิตาม ป.ที่ดิน มาตรา 69 ทวิ แต่คำคัดค้านที่จำเลยอ้างว่าที่ดินที่โจทก์นำชี้รุกล้ำเข้าไปในเขตที่ดินของจำเลย และการที่จำเลยนำชี้รังวัดที่ดินของตนรุกล้ำที่ดินของโจทก์ซึ่งอยู่ติดกันนั้น เป็นการโต้แย้งกรรมสิทธิ์ในที่ดินระหว่างโจทก์กับจำเลย ถือว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิของโจทก์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 55 แล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 200,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้เพิกถอนการรังวัดสอบเขตที่ดินโฉนดเลขที่ 11808 ของจำเลยเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2558 และเพิกถอนคำคัดค้านของจำเลยในการรังวัดสอบเขตที่ดินโฉนดเลขที่ 6976 ของโจทก์ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2558
จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีนี้เป็นฟ้องซ้ำกับคดีหมายเลขแดงที่ 489/2554 ของศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 เห็นว่าคดีนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีหมายเลขแดงที่ 489/2554 ของศาลชั้นต้น พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนคำคัดค้านของจำเลยในการรังวัดสอบเขตที่ดินโจทก์โฉนดเลขที่ 6976 เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2558 กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาท คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาแก้เป็นว่า ในส่วนค่าฤชาธรรมเนียมตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความชั้นศาลละ 3,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นที่คู่ความมิได้โต้เถียงกันในชั้นนี้รับฟังได้ว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 6976 จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 11808 โดยที่ดินของโจทก์ด้านทิศเหนือและทิศตะวันตกมีอาณาเขตติดต่อกับที่ดินของจำเลย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2554 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 489/2554 ให้จำเลยออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 6976 เนื้อที่ 15 ตารางวา ซึ่งมีบางส่วนของบ้านเลขที่ 98/1 สร้างอยู่ และให้รื้อถอนส่วนของบ้านที่รุกล้ำ กับห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องในที่ดินดังกล่าว ต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค 6 และศาลฎีกาพิพากษายืน คดีถึงที่สุด โจทก์ดำเนินการบังคับคดีตามคำพิพากษาโดยจะรื้อถอนบ้านเลขที่ 98/1 ส่วนที่รุกล้ำออกจากที่ดินพิพาทในคดีดังกล่าว ต่อมาวันที่ 27 กรกฎาคม 2558 โจทก์นำช่างรังวัดทำการรังวัดที่ดินโฉนดเลขที่ 6976 ของโจทก์ แต่จำเลยคัดค้านการรังวัด
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยมีว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ โดยจำเลยฎีกาว่า การกระทำของจำเลยเป็นการใช้สิทธิต่อทรัพย์สินของจำเลยตามกฎหมาย ไม่เกิดข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เห็นว่า โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 6976 โจทก์ยื่นขอรังวัดสอบเขตที่ดินดังกล่าว แต่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของที่ข้างเคียงที่ดินโฉนดเลขที่ 11808 ยื่นคัดค้านการรังวัดและจำเลยยังยื่นขอรังวัดสอบเขตโฉนดที่ดินของจำเลยดังกล่าวโดยนำชี้รังวัดรุกล้ำที่ดินของโจทก์ทั้งแปลง ดังนี้ แม้การยื่นคำคัดค้านดังกล่าวจะเป็นการใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 69 ทวิ แต่เนื้อหาในคำคัดค้านที่จำเลยอ้างว่า ที่ดินที่โจทก์นำชี้รุกล้ำเข้าไปในเขตที่ดินของจำเลย และจำเลยนำชี้ที่ดินของตนรุกล้ำที่ดินของโจทก์ซึ่งอยู่ติดกัน เป็นการโต้แย้งกรรมสิทธิ์ในที่ดินระหว่างโจทก์กับจำเลย ถือว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 แล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 มีคำพิพากษาว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องนั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share