แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยใช้ห้องของโจทก์เป็นที่พักคนเดินทางมาจากต่างประเทศและจะไปต่างประเทศโดยจำเลยมิได้มีเจตนาจะใช้ห้องของโจทก์เป็นที่อยู่อาศัยของตน ดังนี้จำเลยจะใช้ห้องของโจกท์เป็นที่อยู่อาศัยของตน ดังนี้จำเลยจะอ้างความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมคาเช่าฯ (อ้างฏีกา 1097 ถึง 1147/2491)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยเลิกใช้ห้องของโจทก์ประกอบการค้า ให้จำเลยแสดงและคิดบัญชีจ่ายเงินตอบแทนโจทก์ตามสัญญา และขับไล่จำเลยกับบริวารออกจากห้องโดยกล่าวว่าจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญา จำเลยให้การต่อสู้ว่าไม่ได้ผิดสัญญา จำเลยได้ใช้ห้องเป็นที่อยู่อาศัยและประกอบการค้าเป็นที่พักคนเดินทางมาจากต่างประเทศและที่จะไปต่างประเทศเป็นส่วนสัดต่างหากจากโจทก์ โดยเสียค่าตอบแทนแก่โจทก์ ๓ ใน ๑๐ ส่วนของผลกำไร จำเลยได้รับความคุ้มครอบตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยได้คิดบัญชีแล้ว แต่เห็นว่าเป็นเรื่องอาศัย โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้ ให้ขับไล่จำเลย
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาเช่าทรัพย์ โจทก์ยังไม่มีสิทธิขับไล่ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คำให้การของจำเลยปรากฏชัดเจนว่า การที่จำเลยเข้าไปอยู่ในห้องของโจทก์ก็โดยจำเลยเข้าไปดำเนินการประกอบการธุรกิจของจำเลยซึ่งใช้ห้องของโจทก์เป็นที่พักคนเดินทางมาจากต่างประเทศและจะไปต่างประเทศ จำเลยมิได้มีเจตนาจะใช้ห้องของโจทก์เป็นที่อยู่อาศัยของตน ี้จำเลยจะอ้างความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมคาเช่าฯ ไม่ได้
พิพากษากลับให้ขับไล่จำเลยดังศาลช้นต้น