แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กู้และว่าเชื่อว่าพิมพ์นิ้วมือไม่ใช่ของจำเลยในชั้นพิจารณาจำเลยสืบว่าลายมือนั้นจำเลยถูกหลอกลวงให้พิมพ์ โดยผู้หลอกว่าจะเอาไปใช้กิจธุระอย่างอื่นดั่งนี้ สืบได้ไม่เป็นการนอกประเด็น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องจำเลยได้กู้เงินนายฉันไป ๑๖๐ บาท โจทก์เป็นผู้รับมฤดกความ หนี้รายนี้ค้างชำระทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยรวม ๒๐๘ บาท ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระ จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่เคยยืมเงินนายฉัน ๆ ไม่เคยส่งมอบเงินให้จำเลยลายนิ้วมือที่โจทก์อ้างมาฟ้อง จำเลยเชื่อว่าไม่ใช่ลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลย.
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยให้แก่โจทก์.
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เชื่อพะยานจำเลย จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์.
โจทก์ฎีกาว่าศาลไม่ควรรับฟังคำพะยานข้อต่อสู้ของจำเลย เพราะเป็นการสืบนอกปะเด็นดั่งคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงดั่งที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาว่าจำเลยมิได้ทำหนังสือสัญญากู้เงินของนายฉันดังฟ้อง การที่ลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลยไปติดอยู่ในสัญญาที่ฟ้องนี้ ก็โดยบุตรสาวของจำเลยหลอกลวงว่าให้พิมพ์นิวมือในแบบพิมพ์ย้ายสำมะโนครัว จำเลยหาได้ลงพิมพ์ลายนิ้วมือในสัญญากู้รายนี้ให้แก่นายฉันโดยถือว่าเป็นสัญญากู้ไม่ การที่จำเลยนำสืบเพื่อปฏิเสธความรับผิดตามสัญญากู้เงินรายนี้ ก็เป็นการสืบในประเด็นโดยตรง หาได้เป็นการสืบนอกประเด็นไม่ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์.