แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เพียงแต่ปรากฎว่าผู้ขายมีกระสุนปืนที่ลงบัญชีว่าขายแล้วไว้ในร้านโดยเจตนาก็เปนผิด
ย่อยาว
จ.ได้รับอนุญาตซื้อกระสุนปืน ๒๐๐ นัดแลได้ไปซื้อที่ร้านจำเลย แต่ จ.ชำระราคาแลรับเอากระสุนปืนไปเพียง ๑๕๐ นัดเท่านั้นส่วนอีก ๕๐ นัดได้ตกลงกับจำเลยให้เก็บไว้ก่อนสัก ๑๕ วันจึงจะมารับแลชำระราคาให้ แต่จำเลยได้ลงบัญชีว่าขายแล้วทั้ง ๒๐๐ นัด ดังนี้
ศาลเดิมตัดสินปรับจำเลย ๓๐ บาทตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ร.ศ.๑๓๑ ม.๓๕
ศาลอุทธรณ์ตัดสินกลับให้ยกฟ้อง โดยอ้างว่าโจทก์สืบไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำโดยทุจจริตเพื่อประสงค์จะฉ้อเจ้าพนักงาน
ศาลฎีกาเห็นว่า ตาม พ.ร.บ. อาวุธปืน ร.ศ.๑๓๑ ม.๓๕ ข้อ ๒ ไม่ได้บัญญัติว่าโจทก์จะต้องพิศูจน์ให้ได้ความว่าผู้ขายกระทำโดยความผิด หรือโดยการฉ้อฉล เพียงแต่โจทก์นำสืบได้ว่าผู้ขายกระทำ ” โดยเจตนา ” ตามหลักทั่วไปที่บัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๔๓ ก็เปนการพอแล้ว ข้อเท็จจริงในคดีนี้ปรากฎว่าจำเลยรู้แลจงใจตรอกบัญชีผิดไว้ว่าได้ขายลูกกระสุนปืนที่ยังเหลืออยู่ ๕๐ นัดให้แก่ จ.แล้ว จำเลยต้องมีความผิด จึงตัดสินกลับศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลเดิม