คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5784/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อกำหนดที่ให้จำเลยชดใช้ค่าเสื่อมราคาของรถยนต์ที่เช่าซื้อตามที่ระบุไว้ในสัญญาเช่าซื้อก็คือราคารถยนต์ที่ยึดคืนมาขายได้น้อยกว่าราคาที่เช่าซื้อที่จำเลยต้องรับผิดนั่นเอง ข้อสัญญาดังกล่าวจึงเป็นวิธีการกำหนดค่าเสียหายวิธีหนึ่งซึ่งมีลักษณะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับ ซึ่งศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้ถ้าเห็นว่าสูงเกินส่วน
ค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องมาไม่ใช่ค่าเช่าซื้อหรือเงินอื่นใดที่ค้างชำระ ดังที่สัญญาเช่าซื้อระบุไว้ให้เรียกดอกเบี้ยได้ในอัตราร้อยละ 1.75 ต่อเดือนหากแต่เป็นหนี้เงินซึ่งโจทก์สามารถเรียกดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดในอัตราร้อยละ 7.5ต่อปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 224 วรรคหนึ่ง เท่านั้น
จำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าซื้อรถยนต์ไปจากโจทก์เป็นผู้นำกระบะบรรทุกมาติดตั้งประกอบเข้ากับรถยนต์ที่เช่าซื้อ กระบะบรรทุกดังกล่าวจึงเป็นส่วนควบของรถยนต์ที่เช่าซื้อ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์อันถือได้ว่าเป็นเจ้าของทรัพย์เป็นประธานย่อมเป็นเจ้าของกระบะบรรทุกที่ติดตั้งประกอบเข้ากับรถยนต์ที่เช่าซื้อแต่ผู้เดียว แต่ต้องใช้ค่ากระบะบรรทุกนั้นให้แก่จำเลยที่ 1 ผู้เป็นเจ้าของทรัพย์ ตาม ป.พ.พ.มาตรา1316 วรรคสอง

Share