คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 578/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอม ให้จำเลยโอนปั๊มน้ำมันให้โจทก์แต่ถ้ามีเหตุโอนปั๊มน้ำมันไม่ได้ ให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ห้าล้านบาทเช่นนี้ การบังคับคดี โจทก์จะต้องบังคับให้จำเลยโอนปั๊มน้ำมันให้โจทก์ตามคำพิพากษาตามยอมเสียก่อน ถ้ามีเหตุโอนปั๊มน้ำมันให้โจทก์ไม่ได้ จึงให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ ที่ศาลชั้นต้นสั่งออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์จำเลยเพื่อให้ชำระเงินห้าล้านบาทตามที่โจทก์ขอ โดยไม่ปรากฏเหตุที่จำเลยไม่อาจโอนปั๊มน้ำมันให้โจทก์ได้นั้น ถือว่ามิได้ดำเนินการตามคำพิพากษาตามยอมเป็นขั้น ๆ ไป ย่อมยกหมายบังคับคดีนั้นเสียได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296

ย่อยาว

คดีนี้ เดิมโจทก์ฟ้องและแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องจำเลยขอหย่าและขอแบ่งสินสมรส ต่อมาโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลพิพากษาตามยอมมีข้อความว่า ให้จำเลยโอนปั๊มน้ำมันทั้งสองแห่งให้โจทก์แต่ถ้ามีเหตุโอนปั๊มน้ำมันทั้งสองแห่งหรือแห่งใดแห่งหนึ่งให้โจทก์ไม่ได้จึงให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ห้าล้านบาท ต่อมาโจทก์ยื่นคำขอว่าจำเลยไม่โอนปั๊มน้ำมันทั้งสองแห่งให้โจทก์ ขอให้ศาลบังคับคดีโดยให้จำเลยชำระเงินห้าล้านบาทแก่โจทก์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยมาเพื่อชำระเงินแก่โจทก์
จำเลยจึงยื่นคำร้อง ๒ ฉบับ ฉบับแรกอ้างว่าจำเลยได้ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมแล้ว ขอให้ศาลสั่งยกหมายบังคับคดี ระงับการยึดทรัพย์ หรือถ้าได้ยึดทรัพย์แล้ว ก็ขอให้สั่งถอนการยึดทรัพย์ ศาลชั้นต้นสั่งว่าไม่มีเหตุระงับการยึดทรัพย์ ต้องปฏิบัติไปตามยอม ยกคำร้อง คำร้องฉบับที่สอง จำเลยขอให้สั่งงดการบังคับคดีไว้ โดยให้ทำการไต่สวนคำร้องฉบับแรกของจำเลยเสียก่อนศาลชั้นต้นสั่งว่า ไม่มีเหตุสั่งงดหรือไต่สวน ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ประเด็นข้อแรกที่จะวินิจฉัยมีว่า ศาลจะสั่งยกหมายบังคับคดีได้หรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาตามยอมให้จำเลยโอนปั๊มน้ำมันทั้งสองแห่งให้โจทก์ แต่ถ้ามีเหตุโอนปั๊มน้ำมันทั้งสองแห่งหรือแห่งใดแห่งหนึ่งให้โจทก์ไม่ได้ จึงให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์คือปั๊มน้ำมันที่ถนนมหศักดิ์เป็นเงิน ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท และปั๊มน้ำมัน ป.พระราม ๔ เป็นเงิน๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท เช่นนี้ การบังคับคดีโจทก์จะต้องบังคับให้จำเลยโอนปั๊มน้ำมันทั้งสองแห่งให้โจทก์ตามคำพิพากษาตามยอมเสียก่อน ถ้ามีเหตุโอนปั๊มน้ำมันทั้งสองแห่งหรือแห่งใดแห่งหนึ่งให้โจทก์ไม่ได้ จึงจะให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์แต่โจทก์หาได้ขอให้ศาลบังคับจำเลยโอนปั๊มน้ำมันดังกล่าวก่อนไม่ โดยโจทก์ขอให้บังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยเพื่อชำระเงิน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ให้โจทก์ไปทีเดียว ซึ่งตามคำขอของโจทก์ไม่ปรากฏเหตุที่แสดงให้เห็นว่า จำเลยไม่อาจโอนปั๊มน้ำมันทั้งสองแห่งหรือแห่งใดแห่งหนึ่งให้โจทก์ อันจะถือว่าจำเลยเป็นฝ่ายไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามคำพิพากษาตามยอมได้ และจำเลยก็ยังโต้เถียงเรื่องนี้อยู่ จึงเป็นการขอให้ศาลดำเนินการบังคับคดีข้ามขั้นไม่เรียงตามลำดับในคำพิพากษา ฉะนั้น การที่ศาลชั้นต้นได้สั่งออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยเพื่อใช้ชำระเงิน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาทตามที่โจทก์ขอ จึงเป็นการที่มิได้ดำเนินการตามคำพิพากษาตามยอมเป็นขั้น ๆ ไป นับว่าเป็นกรณีที่ดำเนินการบังคับคดีผิดไปจากคำพิพากษาตามยอม ย่อมจะยกหมายบังคับคดีที่ออกฝ่าฝืนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๖ ได้ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยเพื่อให้ชำระเงิน๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นนั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังขึ้น และไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นข้ออื่นต่อไป
พิพากษากลับ ให้ยกหมายบังคับคดีของศาลชั้นต้นนั้นเสีย

Share