แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พฤตติการณ์อย่างไรฟังว่าเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ จำเลยเป็นนายตรวจสุราไปจับโจทก์ซึ่งทำผิดกฎหมายสุรา โจทก์กลับต่อยจำเลย ๆ จึงใช้+หล็กสำหรับตรวจสุราตีโจทก์หนึ่ง เป็นบาดแผลเล็กน้อยนับว่าเป็นการป้องการพอสมควรแก่เหตุ พ.ร.บ. ลักษณอุทธรณ์ +ศ.2473 ม.3(1) พฤตติการณ์ที่ได้ความจะเป็นการป้องกันหรือไม่เป็นข้อกฎหมาย
ย่อยาว
คดีได้ความว่าจำเลยเป็นนายตรวจสุราพร้อมด้วยตำรวจ ๒ นายได้พากันไปจับโจทก์กับพวกซึ่งกำลังชุมนุมกันดื่มน้ำขาวอันเป็นผิดกฎหมาย โจทก์ได้บังอาจเข้าแย่งทำลายของกลางจากจำเลย ๆ จึงผลักโจทก์เพื่อป้องกันไม่ให้แย่งแลทำลายทันใดโจทก์ได้ต่อยจำเลยล้มลง แล้วตรงเข้าจะต่อยซ้ำอีก จำเลยจึงใช้เหล็กสักสำหรับตรวจสุราตีโจทก์ทีหนึ่งเป็นบาดแผลกว้าง ๑ มินลิเมตร์ ยาว ๕ เซ็นติเมตร์ โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกาย
ศาลเดิมตัดสินว่าจำเลยมีผิดตามมาตรา ๒๕๔ ให้จำคุก ๒ เดือนปรับ ๔๐ บาท ลดโทษตามมาตรา ๕๙ แลให้ยกโทษจำคุกเสีย คงปรับจำเลย ๒๐ บาท
ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์เป็นฝ่ายทำผิดจำเลยเป็นฝ่ายทำถูกคือทำตามหน้าที่โดยชอบมาแต่แรกแล้ว แลโดยพฤตติการณ์แห่งรูปคดีเห็นได้ว่าจำเลยเริ่มใช้สิทธิป้องกัน แต่แรกรู้ตนว่าจะถูกต่อยแล้ว นับว่าเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์ยืนตามศาลอุทธรณ์