คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5763/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ผู้ร้องเป็นบุตรของผู้ตาย แต่เมื่อผู้ตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกทั้งหมดให้แก่ อ. แต่ผู้เดียว และห้ามบุคคลอื่นเกี่ยวข้อง ผู้ร้องจึงเป็นผู้ถูกตัดมิให้รับมรดกและไม่มีฐานะเป็นทายาทที่จะร้องขอให้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 เมื่อผู้ตายทำพินัยกรรมมีข้อกำหนดให้ตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกและผู้คัดค้านไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามมิให้เป็นผู้จัดการมรดก จึงสมควรให้ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกตามเจตนาของผู้ตาย.

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของนายเทียนไล้ปัญจะเทวคุปต์ ผู้ตาย
ผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านว่า ผู้ตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกทั้งหมดให้แก่เด็กชายวุฒิเอก เย็นจิตต์ เพียงผู้เดียว และตั้งให้ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก ขอให้ยกคำร้องและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก ยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ตายทำพินัยกรรมระบุว่ายกทรัพย์มรดกทั้งหมดให้แก่เด็กชายวุฒิเอก เย็นจิตต์ แต่เพียงผู้เดียว บุคคลอื่นขอตัดมิให้รับทรัพย์มรดกและห้ามเกี่ยวข้อง ดังนี้ แม้ผู้ร้องจะเป็นบุตรอันเป็นทายาทโดยธรรมของผู้ตาย แต่เมื่อผู้ร้องไม่ได้รับประโยชน์หรือมีสิทธิใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์มรดกของผู้ตายแต่อย่างใดผู้ร้องจึงเป็นผู้ถูกตัดมิให้รับมรดกของผู้ตาย และมิใช่บุคคลที่มีฐานะเป็นทายาทที่จะร้องขอตั้งเป็นผู้จัดการมรดก ตามความหมายในมาตรา 1713แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ นอกจากนี้ผู้ตายยังทำพินัยกรรมกำหนดให้ตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก เมื่อผู้คัดค้านไม่เป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติต้องห้ามมิให้เป็นผู้จัดการมรดก ผู้คัดค้านจึงสมควรได้รับการตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกตามเจตนาของผู้ตาย
พิพากษายืน.

Share