แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 และ 297ที่พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยนั้น มิใช่เป็นความผิดต่อส่วนตัว ดังนั้น การที่ ถ.และอ. จะเป็นผู้เสียหายตามกฎหมายหรือไม่ หามีผลต่ออำนาจฟ้องของพนักงานอัยการโจทก์ไม่ ฎีกาของจำเลยในข้อนี้จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ พฤติการณ์ที่จำเลยกับพวกกระทำแก่ ถ.และอ. เป็นการกระทำที่รุนแรง มีการใช้ไม้ท่อนและขวดเป็นอาวุธ ร่วมกระทำความผิดด้วยกันหลายคนโดยที่ฝ่ายผู้เสียหายทั้งสองมิได้เป็นฝ่ายก่อเหตุก่อนและผลแห่งการถูกทำร้ายร่างกายครั้งนั้น ถ. ได้รับอันตรายสาหัสถึงกับเลือดคั่งใต้กะโหลกศีรษะ สมองช้ำ เดินไม่ได้ตามปกติทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยได้บรรเทาผลร้ายแห่งคดีแต่อย่างใดเลยจึงไม่มีเหตุอันควรปรานีด้วยการรอการลงโทษให้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งหกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 58, 83, 91, 295, 296, 297, 298 และนำโทษของจำเลยที่ 3ที่รอไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 347/2534 ของศาลชั้นต้นมาบวกเข้ากับโทษของจำเลยที่ 3 ในคดีนี้
จำเลยทั้งหกให้การปฏิเสธ แต่จำเลยที่ 3 รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 347/2534 ของศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 295, 297 เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 สำหรับจำเลยที่ 3 ให้บวกโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 347/2534 ของศาลชั้นต้นเข้ากับโทษของจำเลยที่ 3 ในคดีนี้ ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 6 ข้อหาอื่นให้ยก
โจทก์และจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5กับพวกร่วมกันทำร้ายร่างกายนายถกลศักดิ์ได้รับอันตรายสาหัสและนายอาทิตย์ ได้รับอันตรายแก่กายจริงดังที่โจทก์ฟ้อง ที่จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 นำสืบและฎีกาขึ้นมาว่าในคืนเกิดเหตุนายถกลศักดิ์และนายอาทิตย์กับพวกได้หาเรื่องทะเลาะและทำร้ายร่างกายพวกของจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 กับพวก นายถกลศักดิ์กับนายอาทิตย์และพวกทะเลาะวิวาทชุลมุนต่อสู้ทำร้ายร่างกายกับจำเลยที่ 2ถึงที่ 5 และพวกนายถกลศักดิ์และนายอาทิตย์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีนี้นั้น เห็นว่า ข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295และ 297 ที่พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5นั้น มิใช่เป็นความผิดต่อส่วนตัว การที่นายถกลศักดิ์และนายอาทิตย์จะเป็นผู้เสียหายตามกฎหมายหรือไม่ หามีผลต่ออำนาจฟ้องของพนักงานอัยการโจทก์ไม่ ฎีกาของจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ในข้อนี้จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ส่วนที่จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ฎีกาขอให้รอการลงโทษนั้น เห็นว่าพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 กับพวกกระทำแก่นายถกลศักดิ์และนายอาทิตย์เป็นการกระทำที่รุนแรง มีการใช้ไม้ท่อนและขวดเป็นอาวุธ ทั้งร่วมกระทำความผิดด้วยกันหลายคน โดยที่ฝ่ายผู้เสียหายทั้งสองมิได้เป็นฝ่ายก่อเหตุก่อนและผลแห่งการถูกทำร้ายร่างกายครั้งนั้นนายถกลศักดิ์ได้รับอันตรายสาหัสถึงกับเลือดคั่งใต้กะโหลกศีรษะ สมองช้ำ เดินไม่ได้ตามปกติ ยิ่งกว่านั้นความไม่ปรากฏว่า จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ได้บรรเทาผลร้ายแห่งคดีแต่อย่างใดเลย จึงไม่มีเหตุอันควรปรานีด้วยการรอการลงโทษให้ตามที่จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ฎีกาขอมา
พิพากษายืน