คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขึ้นไปบนต้นลำไย หักลำไยทั้งกิ่งจากต้นลำไยใส่ในเข่ง เจ้าพนักงานจับจำเลยขณะกำลังอยู่บนต้นและกำลังหักกิ่งลำไยใส่เข่งอยู่ เป็นการแยกหรือเคลื่อนที่ผลลำไยออกจากต้น และเข้ายึดถือเอาผลลำไยจำนวนนั้นไว้แล้ว อันเป็นการเอาไปซึ่งทรัพย์ของผู้เสียหายครบองค์ประกอบความผิดฐานลักทรัพย์แล้ว (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1153/2484)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองได้ลักเอาผลลำไย ๑๐ กิโลกรัม ของผู้เสียหายซึ่งอยู่ในความครอบครองของนายวีระชัยไปโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕, ๘๓
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๓๕, ๘๓ จำคุกคนละ ๔ เดือน
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕, ๘๐, ๘๓ จำคุกคนละ ๒ เดือน ๒๐ วัน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้งสองขึ้นไปบนต้นลำไยหักผลลำไยทั้งกิ่งจากต้นลำไยน้ำหนักประมาณ ๑๐ กิโลกรัม ใส่ในเข่งลำไย ๑ เข่ง พร้อมเชือก ๑ เส้นซึ่งลำไยราคา ๒๕๐ บาท เข่งราคา ๓๐ บาท เชือกราคา ๖๐ บาท เป็นทรัพย์ของผู้เสียหายเจ้าพนักงานจับจำเลยขณะกำลังอยู่บนต้นและกำลังหักกิ่งลำไยจำนวนดังกล่าวใส่เข่งอยู่
ปัญหาที่ว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันลักทรัพย์สำเร็จหรือพยายามร่วมกันลักทรัพย์นั้นศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยร่วมกันหักผลลำไยทั้งกิ่งออกจากต้นลำไยใส่ในเข่งไว้ เป็นการแยกหรือเคลื่อนที่ผลลำไยออกจากต้น และเข้ายึดถือเอาผลลำไยจำนวนนั้นไว้แล้ว อันเป็นการเอาไปซึ่งทรัพย์ของผู้เสียหาย ครบองค์ประกอบความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ หาใช่เพียงร่วมกันพยายามลักทรัพย์ดังศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่
พิพากษาแก้ เป็นให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น

Share