คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานเป็นเสมียนของเทศบาลมีหน้าที่เกี่ยวแก่การเงินและเขียนใบอนุญาตฆ่าสัตว์ เขียนแล้วรับเงินส่งเป็นรายได้เทศบาล จำเลยเขียนใบอนุญาตให้ฆ่าสัตว์แล้วรับเงินแล้วยักยอกเอาเป็นประโยชน์ส่วนตัวอันเป็นผิด กฎหมายลักษณะอาญา ม.131 และ 319 ใช้ได้ไม่เคลือบคลุมเพราะจำเลยอาจทำผิดได้ทั้งสองอย่าง
จำเลยเป็นเสมียนเทศบาลมีหน้าที่เขียนอาชญาบัตรฆ่าสัตว์แล้วรับเงินค่าธรรมเนียมส่งเป็นรายได้เทศบาล ย่อมเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจกระทำผิดกฎหมายหลายบทหลายกระทง คือ

ก. ระหว่างตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2498 ถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2498 เวลากลางวันและกลางคืน จำเลยเป็นเจ้าพนักงานทำงานเป็นเสมียนหมวดคลังเทศบาลจังหวัดชุมพร มีหน้าที่เกี่ยวกับบัญชีเงินและมีหน้าที่เขียนใบอนุญาตฆ่าสัตว์ ซึ่งประชาชนร้องขออนุญาตฆ่าต่อเทศบาล เมื่อเขียนเสร็จแล้วก็รับเงินค่าธรรมเนียมการฆ่าสัตว์ไว้ทั้งหมด แล้วนำเงินส่งต่อสมุหบัญชีเป็นรายได้ของเทศบาลเมืองชุมพรครั้นตามวันเวลาดังกล่าวข้างต้น จำเลยได้เขียนใบอนุญาตฆ่าสัตว์ของเทศบาลเมืองชุมพรออกให้แก่ผู้มีชื่อหลายคน มีจำนวน 7 นายเป็นเงินค่าธรรมเนียม 189 บาท จำเลยรับเงินแล้วได้บังอาจทุจริตคิดยักยอกเอาเงินจำนวนนี้ไว้เสีย ไม่นำส่งเป็นรายได้ของเทศบาลเมืองชุมพร

ข. เกี่ยวเนื่องกับความผิดของจำเลยตามข้อ ก.ตามวันเวลาดังกล่าวแล้วในข้อ ก. จำเลยได้บังอาจทำใบอนุญาตฆ่าสัตว์ของเทศบาลเมืองชุมพรปลอมขึ้น 7 ฉบับ ซึ่งเป็นหนังสือสำคัญในราชการแล้วจำเลยได้เขียนข้อความต่าง ๆ ปลอมลงในช่อง เล่มที่.. เลขที่.. วันที่.. เดือน.. พ.ศ… อนุญาตให้โรงฆ่าสัตว์เทศบาลและให้ฆ่าในวันที่ แล้วจำเลยนำไปให้ขุนประเสริฐวรรณกิจ เทศมนตรีเซ็นอนุญาต ขุนประเสริฐวรรณกิจหลงเชื่อว่าเป็นของจริง จึงได้อนุญาตไป แล้วจำเลยนำไปให้นายสมชายนายต่วน นายบุญให้ นายเกี้ยวใช้เป็นของจริง การกระทำดังกล่าวทำให้ขุนประเสริฐวรรณกิจและเทศบาลเมืองชุมพรเกิดความเสียหายได้ จึงขอให้ศาลลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 131, 132, 133, 319(3), 222, 223, 229, 71 และพระราชกฤษฎีกา แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะอาญา พ.ศ. 2484 มาตรา 3และให้คืนหรือใช้เงินแก่เทศบาล 189 บาทด้วย

จำเลยให้การปฏิเสธ และคัดค้านว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมเพราะจะเป็นผิดสองอย่างในขณะเดียวกันไม่ได้

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 ให้จำคุกจำเลย 2 ปี และให้จำเลยคืนเงินแก่เทศบาล 189 บาทด้วย

จำเลยฎีกาในข้อกฎหมายว่า 1. ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม และ 2. จำเลยไม่เป็นเจ้าพนักงาน

ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ว่าเมื่อพิเคราะห์ดูคำฟ้องแล้ว แม้จำเลยรับเงินไว้ในหน้าที่แล้วยักยอกเงินนั้นทั้งทำใบเสร็จปลอมด้วย ก็ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุมเพราะจำเลยอาจมีผิดได้ทั้งสองอย่าง และเมื่อฟังได้ว่าจำเลยเป็นเสมียนเทศบาลมีหน้าที่เขียนอาชญาบัตรฆ่าสัตว์ และเป็นผู้รับเงินส่งลงบัญชีเป็นรายได้ของเทศบาลจึงเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย

Share