คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5709/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 บัญญัติให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องร้องขอให้บังคับคดีแก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาภายในกำหนดสิบปี นับแต่วันมีคำพิพากษาและในการร้องขอให้บังคับคดี โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็จะต้องดำเนินวิธีการบังคับคดีตามขั้นตอนให้ครบถ้วนภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวคือ ต้องขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีก่อน ขั้นต่อไปต้องแจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบว่าศาลได้ออกหมายบังคับคดีแล้วจากนั้น ต้องแถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้ยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาถ้ามีลูกหนี้หลายคนให้ระบุว่าต้องการยึดทรัพย์สินของลูกหนี้คนใด โจทก์ร้องขอให้ออกหมายบังคับคดีแก่จำเลยทั้งสองภายในกำหนดเวลาสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษา แต่ได้นำยึดทรัพย์สินเฉพาะของจำเลยที่ 1 ออกขายทอดตลาดแล้วได้เงินไม่พอชำระหนี้ แม้โจทก์ยังมิได้บังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 แต่โจทก์ได้แถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีของศาลชั้นต้นขอให้ยึดที่ดินของจำเลยที่ 2ซึ่งอยู่ภายในเวลา 10 ปี นับแต่วันมีคำพิพากษา แต่เนื่องจากที่ดินอยู่นอกเขตศาลชั้นต้น เจ้าพนักงานบังคับคดีของศาลชั้นต้นจึงได้มีหนังสือถึงศาลชั้นต้นขอให้ศาลจังหวัดสีคิ้วซึ่งเป็นศาลที่ที่ดินตั้งอยู่ช่วยบังคับคดีแทน การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีของศาลจังหวัดสีคิ้วจะไปยึดที่ดินเมื่อใดนั้น เป็นขั้นตอนการดำเนินงานของเจ้าพนักงานบังคับคดี แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีของศาลจังหวัดสีคิ้วจะไปทำการยึดที่ดินของจำเลยที่ 2 เกินกำหนดสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษา เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนครบถ้วนแล้วภายในสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษาก็ถือได้ว่าโจทก์ได้ร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาภายในสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271แล้ว โจทก์จึงมีสิทธิบังคับคดีเอาแก่ที่ดินของจำเลยที่ 2 ได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินให้แก่โจทก์ โจทก์นำยึดทรัพย์ของจำเลยที่ 2 เพิ่มเติมเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการยึดที่ดินพิพาทตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1457 ของจำเลยที่ 2 ไว้แล้ว
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องว่า โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพิพาทของจำเลยที่ 2 ล่วงเลยกำหนด 10 ปีแล้ว จึงไม่มีสิทธิที่จะบังคับเอาแก่จำเลยที่ 2 อีกต่อไป ขอให้ถอนการยึด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์ยื่นคำร้องขอให้บังคับคดีภายใน10 ปี เป็นการชอบด้วยบทบัญญัติของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 271 แล้ว ให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาข้อกฎหมายที่จะต้องวินิจฉัยในชั้นนี้ตามฎีกาของจำเลยที่ 2 ว่า โจทก์มีสิทธิบังคับเอาแก่ที่ดินพิพาทของจำเลยที่ 2 หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 บัญญัติให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องร้องขอให้บังคับคดีแก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาภายในกำหนดสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษาและในการร้องขอให้บังคับคดี โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็จะต้องดำเนินวิธีการบังคับคดีตามขั้นตอนให้ครบถ้วนภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว คือ ต้องขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีก่อน ขั้นต่อไปต้องแจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบว่าศาลได้ออกหมายบังคับคดีแล้ว จากนั้นต้องแถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้ยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ถ้ามีลูกหนี้หลายคนให้ระบุว่าต้องการยึดทรัพย์สินของลูกหนี้คนใด คดีนี้โจทก์ร้องขอให้ออกหมายบังคับคดีแก่จำเลยทั้งสองภายในกำหนดเวลาดังกล่าวแต่ได้นำยึดทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ออกขายทอดตลาดแล้วได้เงินไม่พอชำระหนี้ แม้โจทก์ยังมิได้บังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 ก็ตาม แต่ในเวลาต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีได้มีหนังสือฉบับลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2534 ถึงศาลชั้นต้นว่า ผู้แทนโจทก์แถลงขอให้นำยึดที่ดินพิพาทของจำเลยเพิ่มเติมซึ่งตั้งอยู่ในเขตศาลจังหวัดสีคิ้วเพิ่มเติมขอให้ศาลจังหวัดสีคิ้วให้สั่งเจ้าพนักงานบังคับคดีประจำศาลจังหวัดสีคิ้วช่วยยึดและขายทอดตลาดที่ดินพิพาทแทนเจ้าพนักงานบังคับคดีของศาลชั้นต้น ซึ่งแสดงว่าโจทก์ได้แถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีของศาลชั้นต้นขอให้ยึดที่ดินพิพาทของจำเลยที่ 2 อันอยู่ภายในเวลา 10 ปี นับแต่วันมีคำพิพากษาคือวันที่ 24 ธันวาคม 2524 แล้ว แต่เนื่องจากที่ดินพิพาทอยู่นอกเขตศาลชั้นต้น เจ้าพนักงานบังคับคดีของศาลชั้นต้นจึงได้มีหนังสือถึงศาลชั้นต้นขอให้ศาลจังหวัดสีคิ้วซึ่งเป็นศาลที่ที่ดินพิพาทตั้งอยู่ช่วยบังคับคดีแทน ดังนั้น การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีของศาลจังหวัดสีคิ้วจะไปยึดที่ดินพิพาทเมื่อใดนั้น เป็นขั้นตอนการดำเนินงานของเจ้าพนักงานบังคับคดี แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีของศาลจังหวัดสีคิ้วจะไปทำการยึดที่ดินพิพาทของจำเลยที่ 2 เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2535 ซึ่งเกินกำหนดสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษาแต่เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนครบถ้วนแล้วภายในสิบปี นับแต่วันมีคำพิพากษาดังกล่าวก็ถือได้ว่าโจทก์ได้ร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาภายในสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 แล้วโจทก์จึงมีสิทธิบังคับคดีเอาแก่ที่ดินพิพาทของจำเลยที่ 2 ได้เทียบเคียงตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4816/2528 ระหว่างธนาคารกรุงเทพ จำกัด โจทก์ บริษัทประธานพัฒนโลหะ จำกัด กับพวก จำเลยและเมื่อวินิจฉัยเช่นนี้แล้ว ปัญหาตามฎีกาของจำเลยที่ 2 ที่ว่าการพิจารณาสิทธิการบังคับคดีในหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งเป็นหนี้ร่วมนั้นจะต้องพิจารณาจากการบังคับคดีของโจทก์ต่อจำเลยแต่ละคนหรือไม่จึงไม่จำต้องวินิจฉัย
พิพากษายืน

Share