คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5706/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้ผู้ซื้อทรัพย์จะได้โอนทรัพย์ที่ซื้อได้มาเป็นของตนแล้วแต่เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษายังไม่ได้รับเงินค่าขายทอดตลาด ย่อมถือไม่ได้ว่าการบังคับคดีได้เสร็จลงแล้วจำเลยจึงยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระหนี้ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี สัญญาค้ำประกัน และบังคับจำนองศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 ร่วมกันชำระเงิน569,624.30 บาท พร้อมดอกเบี้ย และให้จำเลยที่ 2 ชำระเงิน481,331.98 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ โดยผ่อนชำระเป็นงวดแต่จำเลยทั้งสามผิดนัด โจทก์จึงขอให้บังคับคดีแล้วนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำนองของจำเลยที่ 3 คือที่ดินโฉนดเลขที่ 50493ตำบลในเมือง (หนองจะบก) อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาพร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาด โดยในการขายทอดตลาดครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2534 มีนายภูมิพันธ์ บุญนาจเสวีเป็นผู้ซื้อได้ในราคา 370,000 บาท
จำเลยที่ 3 ยื่นคำร้องว่า ในการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยที่ 3เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2534 เจ้าพนักงานบังคับคดีมิได้แจ้งกำหนดนัดให้จำเลยที่ 3 ทราบ ณ ภูมิลำเนาของจำเลยที่ 3 แต่ใช้วิธีประกาศหนังสือพิมพ์ เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด
โจทก์และผู้ซื้อทรัพย์ยื่นคำคัดค้านทำนองเดียวกันว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีส่งประกาศขายทอดตลาดไปที่ภูมิลำเนาของจำเลยที่ 3 ซึ่งระบุไว้ในคำให้การแล้วแต่ไม่สามารถส่งได้ จึงประกาศทางหนังสือพิมพ์ และจำเลยที่ 3 ก็ทราบนัดขายทอดตลาดแล้ว ทั้งการบังคับคดีได้เสร็จสิ้นลงแล้ว จึงไม่อาจเพิกถอนการขายทอดตลาดได้ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดหลังจากบังคับคดีได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 3 อุทธรณ์
ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 จำเลยที่ 3 ถึงแก่กรรมนายพงษ์เทพ เจริญดิเรกทรัพย์ ทายาทของจำเลยที่ 3 ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลอุทธรณ์ภาค 1 อนุญาต
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่า คดีนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์พิพาท วันที่ 5 สิงหาคม 2534 และผู้ซื้อทรัพย์ได้จัดการโอนทรัพย์ที่ซื้อได้เป็นสิทธิของผู้ซื้อทรัพย์แล้วเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2534 การที่จำเลยที่ 3 ยื่นคำร้องขอให้ศาลยกเลิกการขายทอดตลาด เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2534 จึงเป็นการยื่นหลังจากการบังคับคดีได้เสร็จลงแล้ว ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง พิพากษายืน
จำเลยที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาว่า จำเลยที่ 3 ได้ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลงแล้วหรือไม่เห็นว่า แม้ข้อเท็จจริงจะได้ความว่า ผู้ซื้อทรัพย์ได้จัดการโอนทรัพย์ที่ซื้อได้มาเป็นของผู้ซื้อทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม2534 แล้วก็ตาม แต่ไม่อาจถือได้ว่าเป็นการบังคับคดีได้เสร็จลงตั้งแต่วันดังกล่าว เพราะตราบใดที่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษายังไม่ได้รับเงินค่าขายทอดตลาดแล้ว ย่อมถือไม่ได้ว่าการบังคับคดีได้เสร็จลงแล้ว ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยที่ 3ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดหลังจากการบังคับคดีได้เสร็จลงให้ยกคำร้อง และศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนตามมานั้นเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฎีกาของจำเลยที่ 3 ฟังขึ้น”
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 และยกคำสั่งของศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ 3 แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี

Share