คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 569/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ซื้อขายที่ดินมือเปล่าโดยไม่ได้ทำเป็นหนังสือย่อมไม่สมบูรณ์ตาม กฎหมาย แต่เมื่อผู้ขายได้สละสิทธิ์ครอบครองให้ตกไปยังผู้ซื้อแล้ว ผู้ซื้อก็ได้สิทธิ์ครอบครองนั้นทันที

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาปากเปล่าจะขายที่นามือเปล่าเนื้อที่10 ไร่ให้โจทก์เป็นเงิน 5,000 บาท เมื่อโจทก์ชำระเงินหมดแล้วจำเลยก็ขอถอนคำร้องขอรังวัดที่ดินของจำเลยเสีย และมอบที่รายพิพาทให้โจทก์ใช้สิทธิครอบครอง โจทก์ได้ให้นายตู้บุตรของจำเลยทำนารายนี้ 1 ปี โดยจะแบ่งผลให้โจทก์ตามมากน้อย

ครั้นโจทก์ขอให้เจ้าพนักงานที่ดินทำการรังวัดเพื่อออกตราจองให้เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ จำเลยกลับคัดค้าน โจทก์จึงขอให้ห้ามไม่ให้จำเลยทำการคัดค้านในการที่โจทก์จะขอรับตราจองจดทะเบียนที่รายนี้ หรือให้จำเลยคืนเงินค่าที่ดิน 5,000 บาท

จำเลยปฏิเสธว่าไม่เคยขายที่รายพิพาทให้โจทก์

ศาลชั้นต้นพิจารณาว่าที่พิพาทเป็นสิทธิของโจทก์ ห้ามมิให้จำเลยขัดขวาง ถ้าหากขัดขวางโจทก์ขอตราจองไม่ได้ก็ให้จำเลยคืนเงิน 5,000 บาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ไม่เชื่อว่าโจทก์ได้เข้าครอบครองที่พิพาท และฟังไม่ได้ว่านายตู้ครอบครองแทนโจทก์ ทั้งสัญญาซื้อขายก็ไม่ได้ทำเป็นหนังสือไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยได้มอบที่พิพาทให้โจทก์ครอบครองแล้วแม้สัญญาซื้อขายจะไม่ได้ทำเป็นหนังสือไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายก็จริงอยู่ แต่นาพิพาทเป็นที่มือเปล่าเมื่อจำเลยได้สละสิทธิครอบครองให้ตกไปยังโจทก์แล้วโจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครองทันที พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลจังหวัดชลบุรี

Share