คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 568/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ประกันระบุที่อยู่ตามคำร้องขอปล่อยชั่วคราวและคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันคนละแห่งกัน และผู้ประกันมิได้แจ้งเหตุผลหรือแถลงให้ได้ความชัดว่าที่อยู่ที่แท้จริงอยู่แห่งใด เมื่อไม่อาจติดต่อผู้ประกันโดยวิธีส่งหมายนัดและปิดหมายได้ จนต้องมีการปิดประกาศวันนัดฟังคำพิพากษาไว้ที่หน้าศาลถือได้ว่าผู้ประกันทราบนัดโดยชอบแล้ว ผู้ประกันไม่นำตัวผู้ถูกกล่าวหามาส่งศาลตามนัดจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาประกัน.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ถูกกล่าวหา โดยตีราคาหลักประกัน 70,000 บาท ผู้ประกันไม่ส่งตัวผู้ถูกกล่าวหามาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งปรับนายประกันและออกหมายจับ ภายหลังอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วนายประกันยื่นคำร้องของดการปรับหรือลดค่าปรับ ศาลชั้นต้นยกคำร้อง
ผู้ประกันอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ปรับผู้ประกัน 10,000 บาท
ผู้ประกันฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘ข้อเท็จจริงได้ความตามท้องสำนวนว่า ในตอนผู้ประกันยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวชั้นอุทธรณ์ ระบุที่อยู่ในคำร้องว่าอยู่บ้านเลขที่ 129/7 ตรอกวัดพระยายัง ถนนเพชรบุรี แขวงถนนเพชรบุรี เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ต่อมาเมื่อศาลอุทธรณ์ส่งคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวไปอ่านให้ผู้ประกันฟัง ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันโดยแนบสำเนาภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านแบบ ท.ร. 14 ของผู้ประกันไปด้วย แต่ตามสำเนาทะเบียนบ้านกลับระบุเลขบ้านเป็นเลขที่ 1 ตำบล (แขวง) ถนนเพชรบุรี เขตพญาไท ในชั้นนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งให้ส่งหมายนัดถึงผู้ถูกกล่าวหาและผู้ประกันว่า ถ้าไม่มีผู้รับโดยชอบให้ปิดหมาย พนักงานเดินหมายรายงานว่า ส่งหมายนัดแก่ผู้ประกันไม่ได้เพราะไม่พบบ้านเลขที่ 129/7 สอบถามบุรุษไปรษณีย์ซึ่งกำลังส่งจดหมายอยู่บริเวณซอยวัดพญายังก็ไม่ทราบว่าบ้านดังกล่าวอยู่ที่ใด ถึงวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นเห็นว่ายังส่งหมายนัดให้ผู้ประกันไม่ได้ได้เลื่อนการอ่านไปโดยให้ส่งหมายนัดให้ผู้ประกันทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับทางหนึ่งและปิดประกาศวันนัดไว้ที่ศาลชั้นต้นอีกทางหนึ่ง แต่ปรากฏตามรายงานการเดินหมายเอกสารอันดับ 42/3 ในสำนวนว่า พนักงานเดินหมายไปส่งหมายนัดเองโดยไปหาบ้านเลขที่ 129/7 ไม่พบ สอบถามบุรุษไปรษณีย์ที่ส่งจดหมายอยู่ย่านนั้นก็ไม่ทราบว่าบ้านดังกล่าวอยู่ที่ใด จึงส่งหมายนัดให้ผู้ประกันไม่ได้ ศาลชั้นต้นได้รับรายงานการเดินหมายแล้วมีคำสั่งว่าศาลประกาศแจ้งวันนัดให้นายประกันทราบที่หน้าศาลแล้วให้รวมสำเนาไว้ เมื่อถึงวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ผู้ประกันและผู้ถูกกล่าวหาไม่มาศาล ศาลชั้นต้นถือว่าผู้ประกันผิดสัญญาเพราะทราบนัดโดยชอบตามที่ได้ปิดประกาศไว้ที่หน้าศาลแล้ว จึงปรับผู้ประกันตามสัญญา เช่นนี้ เห็นว่าการที่ผู้ประกันระบุที่อยู่ตามคำร้องขอปล่อยชั่วคราวและคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันเป็นคนละแห่งกับบ้านเลขที่ตามทะเบียนบ้านของผู้ประกัน โดยผู้ประกันไม่แจ้งเหตุผลแห่งการนี้หรือแถลงให้ได้ความชัดว่าที่อยู่ที่แท้จริงอยู่แห่งใดแน่ เพื่อจะจัดส่งหมายนัดถึงผู้ประกันได้ถูกต้อง เมื่อไม่อาจติดต่อผู้ประกันโดยวิธีส่งหมายนัดและปิดหมายได้ จนต้องมีการปิดประกาศวันนัดฟังคำพิพากษาไว้ที่หน้าศาลครบกำหนดเวลาตามกฎหมายแล้ว ถือได้ว่าผู้ประกันทราบนัดโดยชอบแล้ว เมื่อผู้ประกันไม่นำตัวผู้ถูกกล่าวหามาส่งศาลตามนัดจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาประกัน ไม่มีเหตุที่จะงดปรับผู้ประกันตามสัญญา ส่วนที่ผู้ประกันขอให้ลดค่าปรับลงอีกด้วยนั้นเห็นว่า การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลดให้เหลือเพียง 10,000 บาทนั้น เป็นผลดีแก่ผู้ประกันแล้ว ไม่มีเหตุที่จะลดลงอีก’
พิพากษายืน.

Share