แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 มาตรา 30 วรรคหนึ่ง บัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง ประกอบกับมาตรา 4 นิยามคำว่า “จัดหางาน” หมายความว่า ประกอบธุรกิจจัดหางานให้แก่คนหางานหรือหาลูกจ้างให้แก่นายจ้าง โดยจะเรียกหรือรับค่าบริการตอบแทนหรือไม่ก็ตาม และให้หมายรวมถึงการเรียกเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเพื่อจัดหางานให้คนหางาน ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยทั้งสามเพียงแต่เป็นผู้ติดต่อบริษัท ว. ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตให้จัดส่งคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เพื่อให้ส่งผู้เสียหายที่ 1 ไปทำงานที่ดินแดนไต้หวันตามความประสงค์ ผู้จัดหางานให้แก่ผู้เสียหายที่ 1 ที่แท้จริงคือ บริษัท ว. การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียหายที่ 1 เพื่อที่บริษัท ร. จะได้ค่าตอบแทนเมื่อธนาคารอนุมัติสินเชื่อ ผลประโยชน์ที่จำเลยทั้งสามจะได้รับมีเพียงค่าตอบแทนในการจัดหาผู้กู้จากบริษัท ร. รวมถึงค่าพาหนะและค่าป่วยการในการดำเนินการดังกล่าวจากผู้เสียหายที่ 1 ซึ่งมิใช่เงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่จำเลยทั้งสามเรียกเพื่อจัดหางานให้ผู้เสียหายที่ 1 โดยตรง ไม่ต้องด้วยนิยามคำว่า “จัดหางาน” ตามมาตรา 4 ข้างต้น การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงไม่เป็นความผิดฐานจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 188 พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 มาตรา 30, 82
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 มาตรา 30 วรรคหนึ่ง, 82 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ให้ลงโทษปรับคนละ 60,000 บาท ทางนำสืบของจำเลยทั้งสามเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงลงโทษปรับคนละ 40,000 บาท ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์และจำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยทั้งสามในความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 มาตรา 30 วรรคหนึ่ง, 82 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 เสียด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติได้ว่า ในระหว่างวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนของบริษัทรวมไทยสากล จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจให้คำปรึกษา แนะนำ รับบริการจัดเตรียมเอกสาร หลักฐานการขอกู้ และค้ำประกันหนี้ของคนหางานที่มีความประสงค์จะขอกู้เงินจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในโครงการอำนายสินเชื่อให้คนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ตามหนังสือมอบอำนาจ โดยบริษัทจะได้ค่าตอบแทนเมื่อธนาคารอนุมัติสินเชื่อให้แก่คนหางาน จำเลยทั้งสามร่วมกันชักชวนผู้เสียหายที่ 1 ไปสมัครงานกับบริษัทวายพีทีกรุ๊ป จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศที่ดินแดนไต้หวัน โดยแจ้งว่าจะได้รับเงินเดือน 21,000 บาท แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 195,000 บาท ในการนี้ผู้เสียหายที่ 2 มอบโฉนดที่ดินเลขที่ 6302 ตำบลท่าจำปา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม และผู้เสียหายที่ 3 มอบโฉนดที่ดินเลขที่ 3970 ตำบลโนนตาล อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ให้แก่จำเลยที่ 1 ยึดถือไว้เพื่อดำเนินการขอสินเชื่อจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ต่อมาธนาคารอนุมัติวงเงินสินเชื่อจำนวน 150,000 บาท และบริษัทวายพีทีกรุ๊ป จำกัด จัดหางานให้ผู้เสียหายที่ 1 เพื่อไปทำงานในต่างประเทศได้โดยส่งผู้เสียหายที่ 1 ไปทำงานที่ดินแดนไต้หวันแล้ว แต่ผู้เสียหายที่ 3 ป่วย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายที่ 2 และที่ 3 ยังมิได้จดทะเบียนจำนองที่ดินดังกล่าวไว้แก่ธนาคาร เมื่อผู้เสียหายที่ 1 เดินทางไปดินแดนไต้หวันได้เพียงสัปดาห์เดียวก็ถูกส่งตัวกลับประเทศไทยเนื่องจากไม่ผ่านการตรวจโรค ผู้เสียหายที่ 2 และที่ 3 จึงไปขอโฉนดที่ดินคืนจากจำเลยที่ 1 แต่จำเลยที่ 1 ไม่ยอมคืนให้อ้างว่าจำเลยที่ 1 ออกเงินทดรองจ่ายให้แก่ผู้เสียหายที่ 1 เพื่อไปทำงานในต่างประเทศจำนวน 65,000 บาท พร้อมแจ้งให้ผู้เสียหายที่ 2 และที่ 3 ชำระเงินจำนวนดังกล่าวแก่จำเลยที่ 1 มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันกระทำความผิดฐานจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับใบอนุญาตหรือไม่ เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 มาตรา 30 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า ห้ามมิให้ผู้ใดจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง ประกอบกับมาตรา 4 นิยามคำว่า “จัดหางาน” หมายความว่า ประกอบธุรกิจจัดหางานให้แก่คนงานหรือหาลูกจ้างให้แก่นายจ้าง โดยจะเรียกหรือรับค่าบริการตอบแทนหรือไม่ก็ตามและให้หมายรวมถึงการเรียกเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเพื่อจัดหางานให้คนหางาน ข้อเท็จจริงทางนำสืบของโจทก์และจำเลยทั้งสามได้ความว่า จำเลยทั้งสามเพียงแต่เป็นผู้ติดต่อบริษัทจัดหางานวายพีทีกรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตให้จัดส่งคนหางานไปทำงานต่างประเทศ เพื่อให้ส่งผู้เสียหายที่ 1 ไปทำงานที่ดินแดนไต้หวันตามความประสงค์ ผู้จัดหางานให้แก่ผู้เสียหายที่ 1 ที่แท้จริงคือบริษัทวายพีทีกรุ๊ป จำกัด การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียหายที่ 1 เพื่อที่บริษัทรวมไทยสากล จำกัด จะได้ค่าตอบแทนเมื่อธนาคารอนุมัติสินเชื่อ ผลประโยชน์ที่จำเลยทั้งสามจะได้รับมีเพียงค่าตอบแทนในการจัดหาผู้กู้จากบริษัทรวมไทยสากล จำกัด รวมถึงค่าพาหนะและค่าป่วยการในการดำเนินการดังกล่าวจากผู้เสียหายที่ 1 ซึ่งมิใช่เงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่จำเลยทั้งสามเรียกเพื่อจัดหางานให้ผู้เสียหายที่ 1 โดยตรงไม่ต้องด้วยนิยามคำว่า “จัดหางาน” ตามมาตรา 4 ข้างต้น การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงไม่เป็นความผิดฐานจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน