คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 565/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เมื่อศาลกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบ แต่โจทก์ส่งเพียงเอกสารที่แนบท้ายคำฟ้องโดยมิได้นำสืบให้เห็นว่าจำเลยทั้งสิบห้าคนดำเนินการเลือกกำนันโดยมิชอบด้วยกฎหมายดัง ที่โจทก์ฟ้อง โจทก์จึงไม่อาจชนะคดีได้ ข้อที่โจทก์ฎีกาว่าระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเลือกกำนัน พ.ศ. 2524 เป็นระเบียบที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 30 แห่ง พ.ร.บ. ลักษณะปกครองท้องที่พ.ศ. 2457 และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ระเบียบดังกล่าวจึงเป็นข้อกฎหมายที่ศาลรู้เองนั้น เมื่อโจทก์มิได้นำสืบในประเด็นที่ตนมีหน้าที่นำสืบข้างต้นฎีกาข้อนี้ของโจทก์จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสิบห้าคนดำเนินการเลือกกำนันโดยมิชอบขัดต่อพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเลือกกำนัน พ.ศ. 2524 กล่าวคือ จำเลยที่ 2มิได้เชิญกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านตำบลอื่นในเขตอำเภอนั้นอย่างน้อย 2 คนเป็นพยานรู้เห็นในการลงคะแนนและตรวจนับคะแนน จำเลยที่ 4 ถึงจำเลยที่ 13 ละเลยต่อหน้าที่ ยินยอมให้จำเลยที่ 14 ที่ 15 เป็นผู้หยิบบัตรเลือกกำนันจากหีบลงคะแนนและอ่านบัตรนับคะแนน โดยไม่มีอำนาจกระทำได้ มีการนับบัตรเลือกกำนันที่ฉีกขาดชำรุดและมีเครื่องสังเกตซึ่งเป็นบัตรเสียให้แก่ผู้สมัครรับเลือกคือจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3แจ้งให้จำเลยที่ 2 ประกาศผลการเลือกกำนัน โดยมิได้วินิจฉัยชี้ขาดเกี่ยวกับบัตรเลือกกำนันที่มีผู้ทักท้วงว่าเป็นบัตรเสีย ขอให้พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 ถึงจำเลยที่ 15 ไม่ชอบด้วยกฎหมายการประกาศผลการนับคะแนน การประกาศผลการเลือกกำนัน และคำสั่งแต่งตั้งกำนันตำบลกระจิว อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นโมฆะให้มีการเลือกใหม่ หรือพิพากษาว่าโจทก์กับจำเลยที่ 1 ได้รับคะแนนในการเลือกกำนันเท่ากัน และให้มีการจับสลาก หรือพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 ได้สละสิทธิ์ในการจับสลากโจทก์เป็นผู้ได้รับเลือกเป็นกำนันตำบลกระจิว อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จำเลยที่ 1 ให้การว่าจำเลยที่ 1 มิได้โต้แย้งสิทธิใด ๆ ของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง การเลือกกำนันได้ดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบของกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเลือกกำนันพ.ศ. 2524 บัตรเลือกกำนันที่ฉีกขาดจำนวน 1 ฉบับตามฟ้อง กรรมการได้วินิจฉัยแล้วว่าเป็นบัตรดี มิใช่บัตรเสียตามระเบียบดังกล่าวขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 กับจำเลยที่ 15 ให้การว่า การเลือกกำนันตามฟ้องดำเนินการโดยถูกต้องโดยปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเลือกกำนัน พ.ศ. 2524 แล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ในวันสืบพยานคู่ความแถลงร่วมกันว่า เอกสารตามสำเนาท้ายฟ้องทุกฉบับมีอยู่จริง บัตรเลือกกำนันตามเอกสารหมาย จ.ล.1 ฉีกขาดออกจากกันไม่หมด ตอนล่างยังติดกันอยู่ยาวประมาณ 2 นิ้ว ส่วนบัตรเลือกกำนันตามเอกสารหมาย จ.ล.2 เป็นบัตรสมบูรณ์ แล้วคู่ความต่างแถลงไม่สืบพยาน
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ส่วนข้อที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยดำเนินการเลือกกำนันโดยมิได้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเลือกกำนัน พ.ศ. 2524 นั้นระเบียบดังกล่าวกำหนดวิธีการเลือกกำนันไว้อย่างไรเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะต้องนำสืบหาใช่ข้อกฎหมายที่ศาลรู้เองไม่ โจทก์เพียงแต่อ้างส่งเอกสารท้ายฟ้องซึ่งมิใช่ระเบียบดังกล่าว ศาลไม่อาจทราบวิธีเลือกกำนันตามระเบียบดังกล่าว ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่าการเลือกตั้งกำนันตามฟ้องเป็นไปโดยไม่ชอบ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ในชั้นพิจารณา เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์นำสืบตามประเด็นที่โจทก์ฟ้อง โจทก์เพียงแต่ส่งเอกสารซึ่งโจทก์อ้างตามที่แนบท้ายคำฟ้องเป็นพยานโจทก์แล้วแถลงไม่สืบพยานอื่นต่อไป ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้โจทก์มีหน้าที่นำสืบตามข้ออ้างของโจทก์ว่าจำเลยทั้งสิบห้าคนดำเนินการเลือกกำนันโดยมิชอบด้วยพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่และระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการเลือกกำนัน พ.ศ. 2524 เมื่อโจทก์อ้างส่งแต่เพียงเอกสารที่แนบท้ายคำฟ้องโดยมิได้นำสืบให้เห็นว่าจำเลยทั้งสิบห้าคนดำเนินการเลือกกำนันโดยมิชอบด้วยกฎหมายและระเบียบดังกล่าวที่โจทก์ฟ้องโจทก์จึงไม่อาจชนะคดีได้ ส่วนข้อที่โจทก์ฎีกาว่าระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการเลือกกำนัน พ.ศ. 2524 เป็นระเบียบที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2475 และประกาศในหนังสือราชกิจจานุเบกษาแล้ว ระเบียบดังกล่าวจึงเป็นข้อกฎหมายที่ศาลรู้เอง นั้น เห็นว่าเมื่อโจทก์มิได้นำสืบในประเด็นที่ตนมีหน้าที่นำสืบดังที่ได้วินิจฉัยมาแล้ว ฎีกาข้อนี้ของโจทก์จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ข้อเท็จจริงตามพยานเอกสารที่โจทก์อ้างส่งศาลยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสิบห้าคนดำเนินการเลือกกำนันโดยมิชอบ ดังที่โจทก์ฟ้องที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามา ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผลฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share