แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์จำเลยพิพาทกันด้วยเรื่องที่ดินราคา 5,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย และศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2518 โจทก์ฎีกาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์โดยยื่นเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2518 อันเป็นวันก่อนพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มีผลบังคับ การพิจารณาว่าคู่ความมีสิทธิฎีกาได้หรือไม่เพียงไรนั้น ต้องพิจารณาตามบทกฎหมายและสิทธิในวันยื่นฎีกาเป็นสำคัญ ฎีกาโจทก์จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ซึ่งใช้อยู่ในวันยื่นฎีกา
(อ้างตามคำพิพากษาฎีกาที่ 542/2500)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบุกรุกเข้าไปปลูกโรง ๑ หลัง ในที่ของโจทก์ซึ่งมีราคา ๕,๐๐๐ บาท ขอให้ศาลพิพากษาบังคับจำเลยรื้อถอนโรงดังกล่าว และห้ามเกี่ยวข้องกับที่พิพาท
จำเลยให้การว่า จำเลยครอบครองที่พิพาทมาเกิน ๑๐ ปี ที่พิพาทเป็นของจำเลย โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นฟังว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์จำเลยพิพาทกันด้วยเรื่องที่ดินราคา ๕,๐๐๐ บาท โดยจำเลยต่อสู้ว่าเป็นที่ดินของจำเลย ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย พิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๘ โจทก์ได้ยื่นฎีกาเมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๑๘ อันเป็นวันก่อนพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๑๘ มีผลบังคับ โดยยื่นฎีกาว่า ตามพยานหลักฐานฟังได้ว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ อันเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์ในวันเดียวกันว่า “รับฎีกา สำนวนให้จำเลย ให้โจทก์นำส่งสำเนาฎีกาภายในกำหนด ๑๕ วัน มิฉะนั้นถือว่าโจทก์ทิ้งฎีกา” เห็นว่า คดีนี้เป็นคดีมีทุนทรัพย์ และจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินห้าพันบาท เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริง เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๘ ซึ่งใช้อยู่ในวันยื่นฎีกา และคดีไม่มีเหตุยกเว้นให้ฎีกาได้ตามมาตราดังกล่าว การพิจารณาว่าคู่ความมีสิทธิฎีกาได้หรือไม่เพียงไรต้องพิจารณาตามบทกฎหมายและสิทธิในในวันยื่นฎีกาเป็นสำคัญ ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๕๔๒/๒๕๐๐ ระหว่างนายยิ้น เนื่องจำนงค์ (หม้าย) โจทก์ นายหิรัญ เทศสวัสดิ์ จำเลย ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์จึงเป็นการไม่ชอบ
พิพากษาให้ยกฎีกาของโจทก์ ค่าขึ้นศาลและค่าคำบังคับในชั้นนี้ให้คืนไป