คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 563/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 4 ชวน ล. ไปเก็บผัก ไปถึงที่เกิดเหตุพบจำเลยที่ 1 ที่ 2และที่ 3 รออยู่. เมื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 จะข่มขืนกระทำชำเรา ล.จำเลยที่ 4 ได้ปลีกตัวออกไปจากที่เกิดเหตุและกลับมาเมื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ข่มขืนกระทำชำเรา ล.เสร็จแล้ว พฤติการณ์ของจำเลยที่ 4 ยังถือไม่ได้ว่าได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ข่มขืนกระทำชำเรา ล.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสี่ว่าได้ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงเลี่ยน ผู้เสียหาย ซึ่งมิใช่ภริยาของจำเลย โดยจำเลยที่ ๔ ใช้อุบายหลอกลวงชวนผู้เสียหายไปเก็บผัก แล้วจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ ได้ผลักกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่คนละ ๑ ครั้ง อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖, ๒๘๓, ๙๑ และ ๘๓
จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสี่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๖ วรรคสอง
จำเลยทั้งสี่ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ ได้กระทำความผิดตามฟ้องโจทก์ส่วนจำเลยที่ ๔ คดีฟังได้แต่เพียงว่า จำเลยที่ ๔ ชวนผู้เสียหายไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ รออยู่ก่อนแล้ว เมื่อจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ จะข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย จำเลยที่ ๔ ได้ปลีกตัวออกไปจากที่เกิดเหตุและกลับมาเมื่อจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายเสร็จแล้ว พฤติการณ์ของจำเลยที่ ๔ ที่พิจารณาได้ความนี้ ถือไม่ได้ว่าได้ร่วมกับจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องเฉพาะจำเลยที่ ๔

Share