คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 563/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรต้องผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อน ตาม พระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ. 2493 มาตรา 21 นั้น หมายความรวมถึงบุคคลต่างด้าวที่มีใบสำคัญถิ่นที่อยู่และออกไปนอกราชอาณาจักรด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวได้บังอาจหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านการตรวจของเจ้าพนักงานและเข้ามาทางอื่นซึ่งไม่ใช่ช่องทางและด่านตรวจคนเข้าเมือง ขอให้ลงโทษตาม พระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๔๙๓ มาตรา ๒๑ , ๖๐, ๕๘
จำเลยให้การภาคเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตาม พระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๔๙๓ มาตรา ๒๑ และ ๕๘ ให้ปรับจำเลย ๑,๐๐๐ บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ ๕๐๐ บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การที่จำเลยออกไปและเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่แจ้งให้เจ้าพนักงานทราบก็เท่ากับว่าจำเลยเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๑ นั้น หาเป็นการวินิจฉัยนอกเหนือคำฟ้องไม่ เพราะฟ้องโจทก์บรรยายไว้ชัดแจ้งแล้ว และแม้แต่คนต่างด้าวที่มีหลักฐานการแจ้งการออกนอกราชอาณาจักร เพื่อกลับเข้ามาอีกตามความในมาตรา ๒๖ เมื่อกลับเข้ามาก็ยังต้องผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๒ และ ๒๓ บุคคลต่างด้าวที่มีใบสำคัญถิ่นที่อยู่และออกไปนอกราชอาณาจักรตามมาตรา ๒๖ ด้วย ที่จำเลยกล่าวอ้างว่า มาตรา ๒๑ ดังกล่าวนี้เป็นบทบัญญัติเกี่ยวแก่ความผิดของคนต่างด้าวที่ไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวที่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวโดยชอบอยู่แล้วดังเช่นจำเลยไม่นั้น หาชอบไม่ ทั้งเมื่อจำเลยออกไปนอกราชอาณาจักร ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ของจำเลยก็ขาดอายุความตามที่บัญญัติ ไว้ในมาตรา ๔๘ แล้ว เมื่อจำเลยกลับเข้ามาในราชอาณาจักร จำเลยก็ต้องผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๒๑ ก่อน ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share