คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 563/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรณีทีเรียกว่าเป็นกรรมอันเดียวกันซึ่งโจทก์จะฟ้องอีกไม่ได้เป็นการฟ้องซ้ำ

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องคดีหาว่าจำเลยบังอาจนำยาเส้น ๒๔๓ ห่อออกจากเขตปลูกยาสูบในเขตจังหวัดสุโขทัย เข้ามาในเขตจังหวัดอุทัยธานีโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน เหตุเกิดที่จังหวัดสุโขทัย ศาลชั้นต้นพิพากษาได้ความว่าความจริงยาเส้นของกลางนี้จำเลยได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานทางจังหวัดสุโขทัยให้นำออกจากเขตปลูกยาสูบในเขตจังหวัดสุโขทัยได้แล้ว เมื่อจำเลยนำเข้ามาในเขตจังหวัดอุทัยธานีซึ่งกฎหมายไม่ได้บัญญัติห้ามมิให้นำเข้าโดยมิได้รับอนุญาต จำเลยไม่มีความผิด หากจะถือว่ายาเส้นของกลางรายนี้ได้รับอนุญาตให้ออกจากเขตปลูกยาสูบในเขตจังหวัดสุโขทัยเข้ามาได้เพียงในเขตจังหวัดนครสวรรค์ การนำออกจากเขตนครสวรรค์ซั่งเป็นเขตปลูกยาสูบอีกเขตหนึ่งโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจังหวัดนครสวรรค์อันจะต้องเป็นผิดด้วย โจทก์ก็หากล่าวฟ้องเช่นนั้นไม่ โจทก์กล่าวว่าจำเลยนำยาเล้นออกนอกเขตปลูกยาจังหวัดสุโขทัยและเหตุแห่งความผิดเกิดที่จังหวัดสุโขทัย ไม่ได้กล่าวว่าเหตุเกิดที่จังหวัดนครสวรรค์ ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้อีก จึงพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุด
โจทก์ฟ้องคดีใหม่ หาว่าจำเลยนำยาเส้น ๒๔๓ ห่อรายนี้ออกจากเขตปลูกยาเส้นในเขตจังหวัดเข้ามาในเขตจังหวัดอุทัยธานีโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน เหตุเกิดที่จังหวัดนครสวรรค์
ศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นการฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๓๙ (๔) พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่ายาเส้นของกลาง ๒๔๓ ห่อรายนี้ โจทก์ได้เคยฟ้องจำเลยคนเดียวกันนี้หาว่ากระทำผิดพระราชบัญญัติยาสูบมาครั้งหนึ่ง และศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว เรียกได้ว่าเป็นกรรมอันเดียวกันซึ่งโจทก์อ้างว่าเป็นความผิด โจทก์จะกลับมาฟ้องจำเลยอีกหาได้ไม่ ถึงแม้ในคราวนี้โจทก์จะฟ้องว่าจำเลยนำออกนอกเขตปลูกยาสูบในเขตจังหวัดนครสวรรค์ก็ดี ก็เป็นยารายเดียวกันกับที่โจทก์เคยฟ้องจำเลยแล้ว นั้นเอง จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share