แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แบบ ส.ด. 9 ที่พัสดีออกให้แก่ผู้ที่ขอลงทะเบียนทหารกองเกินเป็นหนังสือราชการ ไม่ใช่หนังสือสำคัญในทางราชการ.
ให้เจ้าพนักงานจดข้อความเท็จลงในทะเบียนทหารกองเกินและออกใบสำคัญให้แล้วใช้ใบสำคัญนั้นเป็นความผิดรวมอยู่ในฐานบอกให้เจ้าพนักงาน+ข้อความเท็จซึ่งเป็นบทหนักอย่างเดียว ไม่เป็นผิดฐานแจ้งความเท็จและฐานใช้หนังสือปลอมอีก
ในคดีที่โจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียวโดยจำเลยมิได้อุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยไม่ควรมีความผิด ก็มีอำนาจแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้ลงโทษจำเลยได้.
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยซึ่งเป็นคนต่างด้าวเอาความเท็จไปแจ้งต่อพัสดีอำเภอว่าจำเลยเป็นคนชาติไทย ชื่อ “เมือง ปั่นแก้ว” มีอายุครบลงทะเบียนทหารกองเกิน ขอลงทะเบียนทหาร และออกใบสำคัญแบบ ส.ด.๙ แสดงต่อตำรวจซึ่งไปตรวจคนต่างด้าวว่า จำเลยเป็นคนไทย และขึ้นทะเบียนทหารแล้ว ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดฐานบอกให้เจ้าพนักงานจดข้อความเท็จตามกฏหมายอาญามาตรา ๒๒๖ กะทงหนึ่ง ฐานใช้หนังสือราชการปลอมตามกฏหมายอาญามาตรา ๒๒๔ ประกอบด้วยมาตรา ๒๒๗ อีกกะทงหนึ่ง.
โจทก์อุทธรณ์ว่าจำเลยควรมีผิดฐานแจ้งความเท็จและปลอมหนังสือสำคัญในทางราชการด้วย ศาลอุทธรณ์เห็นว่าความผิดของจำเลยในเรื่องนี้ควรเป็นกะทงเดียวตามมาตรา ๒๒๖ เท่านั้น แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจแก้ไข จึงพิพากษาแก้ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยมาตรา ๒๒๖ กะทงเดียว
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าข้อที่ว่าจำเลยควรมีผิดฐานแจ้งความเท็จตามมาตรา ๑๐๘ ด้วยนั้น โทษฐานแจ้งความเท็จเป็นความผิดรวมอยู่ในมาตรา ๒๒๖ ซึ่งเป็นบทหนักที่ศาลล่างได้วางมาแล้ว.
ข้อที่ว่าใบสำคัญแบบ ส.ด.๙ มิใช่เป็นหนังสือสำคัญที่เกี่ยวแก่การตั้งหรือโอนกรรมสิทธิ์และหนี้สิน เป็นหนังสือราชการที่เจ้าพนักงานออกให้เท่านั้น จึงไม่เป็นหนังสือสำคัญตามความหมายของมาตรา ๖ (๒๐).
ข้อว่าจำเลยมีความผิดฐานใช้หนังสือปลอมตามมาตรา ๒๒๗ ประกอบด้วยมาตรา ๒๒๔ ด้วยนั้น ในเรื่องนี้เป็นกรณีที่จำเลยเอาหนังสือที่จำเลยเองได้บอกให้เจ้าพนักงานจดลงเป็นความเท็จมาใช้ ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา ๒๒๗ อยู่แล้ว ไม่มีความผิดตามมาตรา ๒๒๗ อีก จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์.