คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 563/2483

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดิน
เมื่อจำเลยแถลงรับว่าโจทก์ครอบครองที่ดินมา 10 ปี กว่าแล้ว กรณีเข้าข้อสันนิษฐานว่าโจทก์ได้ครอบครองเพื่อตนเองโดยสุจริตสงบและเปิดเผย ถ้าจำเลยกล่าวอ้างว่าโจทก์ครอบครองแทนเพื่อทำนาต่างดอกเบี้ยแล้วจำเลยก็ต้องสืบก่อนเพราะมีข้อสันนิษฐานของ เป็นคุณแก้โจทก์แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าตาและยายของจำเลยได้ขายที่รายพิพาทแก่โจทก์โดยทำหนังสือสัญญาซื้อขายโอนทะเบียนกัน ต่อมาตาและยายจำเลยตายจำเลยให้เจ้าพนักงานหอทะเบียนที่ดินประกาศรับมฤดกและขอให้เรียกโฉนดที่ดินจาก โจทก์ โจทก์จึงขอให้ศาลแสดงว่าโจทก์มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินรายพิพาทจำเลยต่อสู้ว่า โจทก์รับมอบที่ดินในฐานะเป็นประกันเงินกู้
ศาลชั้นต้นเห็นว่าประเด็นตกหน้าที่จำเลยสืบก่อน และเมื่อพิจารณาคำพะยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าประเด็นตกหน้าที่โจทก์สืบก่อน เมื่อพิจารณาพะยานโจทก์แล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกาคัดค้านหน้าที่นำสืบ
ศาลฎีกาเห็นว่า ประมวลแพ่งฯ มาตรา ๑๓๗๓ เป็นบทสันนิษฐานว่าผู้ใดเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง แต่คดีนี้ จำเลยแถลงรับว่าโจทก์ครอบครองที่รายพิพาทมากว่า ๑๐ ปี แล้วดังนั้นข้อสันนิษฐานตามมาตรา ๑๓๗๓ จึงไม่เกิดขึ้น การที่คู่ความเถียงกันว่า โจทก์ครอบครองอย่างใดคือครอบครองโดยปรปักษ์หรือครองครองแทนจำเลยโดยทำนาต่างดอกเบี้ยนั้น กรณีเข้าอยู่ในข้อสันนิษฐาน ตามมาตรา ๑๓๖๙ และมาตรา ๑๓๗๐ ว่า โจทก์ยึดถือเพื่อตนเองโดยสุจริต สงบและเปิดเผย เมื่อข้อสันนิษฐานเป็นคุณแก่โจทก์ดังนี้จำเลยอ้างเป็นอย่างอื่นว่าโจทก์มิได้ครอบครองเอง แต่ครอบครองแทนเจ้าของโดยทำนาต่างดอกเบี้ย คดีก็ตกเป็นหน้าที่จำเลยสืบก่อน แต่เมื่อได้พิจารณาคำพะยาน จำเลยแล้วเห็นว่าโจทก์ได้รับมอบที่นารายพิพาทนี้ทำต่างดอกเบี้ย มิได้ครอบครองเพื่อตนเอง ไม่มีทางได้กรรมสิทธิ์พะยานโจทก์หักล้างไม่ได้ในข้อนี้ จึงพิพากษายืนตามศาลล่างทั้ง ๒ ที่ให้ยกฟ้องโจทก์

Share