แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เขาทำร้ายกัน จึงเข้าไปกลุ้มรุมทำร้ายด้วยเป็นผิดฐานเป็นตัวการทุกคน
ย่อยาว
คดีนี้ได้ความว่า เมื่อวันที่โจทก์หา นายโอดผู้เป็นพี่เขยนายจันดี, กับนายจันดีจำเลยที่ ๑ ไปที่บ้านนายทำผู้ใหญ่บ้าน นายโอดกับนายอ่อนเถียงกันด้วยเรื่องผ้าขาวม้า นายโอดชกนายอ่อนหลายที นายอ่อนต่อสู้กอดปล้ำกัน นายจันดีใช้มีดฟันนายอ่อนทีหนึ่ง นายอ่อนลุกขึ้นโดดเรือนหนีไป นายจันดีถือมีดไล่ตามไปทันฟันนายอ่อนหลายที นายอ่อนหนีไปติดป่า นายจันดีตามไปฟันอีก นายตุ่นจำเลยที่ ๒ ถือหอกออกจากบ้านมาแทงนายอ่อนถูกเอวและหน้าอก นายทันจำเลยที่ ๒ ถือมีดมาเข้าฟันนายอ่อน ๓ ที จนนายอ่อนหมดสติล้มนิ่งอยู่ไม้รู้สึกตน จำเลยทั้งสามจึงพากันหนีไป ปรากฎตามรายงานชันสูตรบาดแผลว่า นายอ่อนมีบาดแผล ๑๔ แห่ง แต่ไม่ถึงแก่ความตาย เพราะไม่ถูกที่สำคัญ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษนายจันดีจำเลยที่ ๑ ตามมาตรา ๒๕๖ ข้อ ๘ จำคุก ๓ ปี จำเลยที่ ๒ – ๓ ปล่อยตัวไป
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้ง ๓ คนช่วยกันกลุ้มรุมฟันแทงนายอ่อนโดยมีเจตนาฆ่าให้ตาย จึงพิพากษาแก้ว่าจำเลยทั้ง ๓ คนมีความผิดตามมาตรา ๒๔๙, ๖๐ ให้จำคุกจำเลยคนละ ๑๐ ปี
จำเลยฎีกา.
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความดังที่กล่าวแล้วข้างต้นนั้น ปรากฎว่าจำเลยทั้ง ๓ คนได้กลุ้มรุมฟันแทงนายอ่อนโดยมีเจตนาจะฆ่านายอ่อนให้ถึงแก่ความตาย จำเลยที่ ๒ และที่ ๓ เรียกได้ว่าเป็นตัวการในการกระทำร้ายนั้น จึงพิพากษายืน