คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 561/2488

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เช่าที่ดินของผู้อื่นปลูกตึกโดยตกลงว่าจะให้ตึกเป็นสิทธิแก่เจ้าของที่ดินจะเป็นในทันทีหรือในภายหน้าก็ตาม เมื่อถึงกำหนดนั้น ๆ แล้วตึกย่อมตกเป็นกรรมสิทธิแก่เจ้าของที่ดินโดยไม่ต้องมีการโอนทะเบียน ในกรณีเช่นนี้ถ้าโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทำการโอนก็ต้องตัดสินยกฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าที่ดินของวัดปลูกตึกแถวสามชั้นแล้วจะโอนกรรมสิทธิให้แก่วัดแล้วไม่โอนจึงขอให้ศาลบังคับ จำเลยว่าโจทก์ยังไม่มีอำนาจฟ้องเพราะยังไม่ครบ 8 ปี 5 เดือนตามสัญญาเช่า
ศาลแพ่งและศาลอุทธรณ์ตัดสินว่า จำเลยไม่มีหน้าที่โอนตึกรายพิพาทให้โจทก์ก่อนครบกำหนดตามสัญญา อำนาจฟ้องของโจทก์ไม่เกิดให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โดยปรกติตึกย่อมตกเป็นส่วนควบของที่ดินและตกเป็นของเจ้าของที่ดินตาม ป.พ.พ.ม.107 แต่มาตรา 109 ยกเว้นไว้ว่า โรงเรือนหรือการปลูกสร้างอย่างอื่นอันผู้มีสิทธิในที่ดินของผู้อื่นใช้สิทธิปลูกลงในที่ดินนั้นไม่กลายเป็นส่วนควบของที่ดิน แต่โจทก์จำเลยได้ตกลงกันให้ตึกรายพิพาทเป็นสิทธิแก่โจทก์แล้ว ตึกจึงกลายเป็นส่วนควบของที่ดินและตกเป็นของโจทก์ตามสัญญาแต่จะตกเป็นส่วนควบและเป็นของโจทก์เมื่อใดนั้น ไม่เป็นประเด็นสำคัญสำหรับคดีนี้ และตึกจะตกเป็นของโจทก์ทันทีหรือเมื่อครบ 8 ปี 5 เดือนก็เป็นการตกเป็นส่วนควบและเป็นของโจทก์ไปในตัว หาจำต้องไปโอนทะเบียนไม่ จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง

Share