คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5600/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ใบคู่มือการจดทะเบียนรถยนต์จะไม่ใช่หลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ที่แสดงว่าผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันนั้นก็ตามแต่ใบคู่มือดังกล่าวมีรายการชื่อเจ้าของไว้ด้วย และการรับจดทะเบียนรถยนต์รายการต่าง ๆ นั้น นายทะเบียนผู้รับจดทะเบียนจะต้องทำการสอบสวนหลักฐานการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์เสียก่อนเมื่อเห็นว่าถูกต้องแล้วจึงรับจดทะเบียนให้ เมื่อนายทะเบียนรับจดทะเบียนให้แล้ว ย่อมสันนิษฐานได้ว่าผู้มีชื่อเป็นเจ้าของผู้มีกรรมสิทธิ์โดยแท้จริง เว้นแต่จะมีหลักฐานฟังได้เป็นอย่างอื่น แม้ตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ของกลางระหว่างผู้ร้องกับจำเลยจะมีข้อตกลงว่าหากจำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าซื้อผิดสัญญา ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิเรียกร้องค่าเช่าซื้อจนครบรวมทั้งค่าเสียหายก็ตาม ก็เป็นเพียงสิทธิเรียกร้องทางแพ่งเท่านั้น การที่ผู้ร้องร้องขอคืนรถยนต์ของกลางถือไม่ได้ว่าผู้ร้องใช้สิทธิโดยไม่สุจริตหรือรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งหกตามพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 26, 75, 76 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย กับสั่งริบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ คันหมายเลขทะเบียน 5ร-3201 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถยนต์ของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า รถยนต์ของกลางเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องมิได้มีส่วนรู้เห็นหรือยินยอมให้คนร้ายนำไปใช้ในการกระทำความผิดหากแต่ผู้ร้องได้ให้จำเลยที่ 2 เช่าซื้อไป จำเลยที่ 2 ผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อ เมื่อผู้ร้องบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อและทวงรถยนต์คืน จำเลยที่ 2 ก็ไม่ยอมคืนให้ กลับนำรถยนต์ของกลางไปใช้ในการกระทำความผิดในคดีนี้ ขอให้ศาลสั่งคืนรถยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ยื่นคำคัดค้าน
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้คืนรถยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของรถยนต์ของกลางหรือไม่นั้น ผู้ร้องมีใบคู่มือการจดทะเบียนรถยนต์ของกลางมาแสดงต่อศาลว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของรถยนต์ของกลาง แม้ใบคู่มือการจดทะเบียนรถยนต์จะไม่ใช่หลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ที่แสดงว่าผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันนั้นก็ตาม แต่ใบคู่มือดังกล่าวมีรายการชื่อเจ้าของไว้ด้วย และการรับจดทะเบียนรถยนต์รายการต่าง ๆ นั้นนายทะเบียนผู้รับจดทะเบียนจะต้องทำการสอบสวนหลักฐานการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์เสียก่อน เมื่อเห็นว่าถูกต้องแล้วจึงรับจดทะเบียนให้เมื่อนายทะเบียนรับจดทะเบียนให้แล้ว ย่อมสันนิษฐานได้ว่าผู้มีชื่อเป็นเจ้าของผู้มีกรรมสิทธิ์โดยแท้จริงเว้นแต่จะมีหลักฐานฟังได้เป็นอย่างอื่น สำหรับคดีนี้โจทก์ไม่มีหลักฐานอย่างใดโต้แย้งว่าผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของรถยนต์ของกลาง จึงฟังได้ว่ากรรมสิทธิ์ในรถยนต์ของกลางยังเป็นของผู้ร้อง
ส่วนปัญหาว่าผู้ร้องมีส่วนรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดหรือไม่นั้น ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า ผู้ร้องไม่มีส่วนรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด และเห็นว่าแม้ตามสัญญาเช่าซื้อจะมีข้อตกลงว่า หากผู้เช่าซื้อผิดสัญญา ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิเรียกร้องค่าเช่าซื้อจนครบรวมทั้งค่าเสียหายก็ตาม ก็เป็นเพียงสิทธิเรียกร้องทางแพ่งเท่านั้น กรณีถือไม่ได้ว่าผู้ร้องใช้สิทธิโดยไม่สุจริตหรือรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด
พิพากษายืน.

Share