แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในเรื่องหญิงชายอยู่กินกันโดยไม่จดทะเบียนสมรส หญิงฟ้องเรียกทรัพย์ของตนที่ชายยึดถือไว้โดยระบุว่าหญิงได้ติดตัวไปในวันตามชายไป แต่นำสืบว่าหญิงได้รับทรัพย์นั้นไปอยู่กับชายในวันสมาดังนี้ไม่ถือว่าเป็นการนำสืบนอกประเด็น
ฎีกาข้อใดที่มีได้ยกขึ้นต่อสู้หรือว่ากล่าวกันมาแต่ในศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงในคดีนี้ได้ความว่า นางนิ่ม ภิรมย์ได้ตามนายแปลกจำเลยที่ ๒ ไปอยู่กินเยี่ยงสามีภริยากันที่เรือนจำเลย โดยมีทรัพย์ติดตัวไปด้วยหลายอย่าง โดยมิได้จดทะเบียนการสมรสถูกต้องตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยทั้งสองคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่โจทก์
จำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายขึ้นมา ๒ ข้อ
ก.โจทก์นำสืบว่าทรัพย์ที่โจทก์เรียกร้องนางนิ่มได้รับไปในสมาไหว้ แต่ตามฟ้องว่านางนิ่มได้ติดตัวไปด้วยในวันตามนายแปลกจำเลยไปนั้นโจทก์นำสืบผิดประเด็น ไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.๑๘๓,๑๘๕,และ ๘๕
ข.หากฟังว่าทรัพย์นางเอียดได้ให้ในการรับสมาไหว้กรรมสิทธิกึ่งหนึ่งในทรัพย์ต้องศกได้แก่นายแปลกจำเลยที่ ๒ ด้วยตาม ป.พ.พ.มาตรา ๑๓๕๖,๑๓๕๗
ศาลฎีกาตัดสินว่า ตามฎีกาข้อ ก.โจทก์นำสืบได้เป็นการนำสืบตามประเด็นแห่งคดี หาใช่นอกประเด็นไม่ เพราะประเด็นในคดีนี้มีว่า จำเลยได้หน่วงเหนี่ยวเอาของ ๆ นางนิ่มโจทก์ได้หรือไม่ มิใช่มีประเด็นว่า โจทก์มีของแต่งตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมจริงหรือไม่ สำหรับข้อ ข.จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้หรือว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้น จำเลยจะยกขึ้นสู้ในชั้นนี้มิได้ตามวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.๒๔๙
จึงพิพากษาให้ยกฎีกาของจำเลย