คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 56/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

(คำสั่งศาลฎีกาที่ 56/2536) คำร้องของ ผู้ร้องที่ว่าเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดสมุทรสาคร มีเขตพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร อำเภอบ้านแพ้ว และอำเภอกระทุ่มแบนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในแต่ละอำเภอ มีกรรมการตรวจคะแนนและเจ้าหน้าที่คะแนนซึ่งเป็นผู้ได้รับแต่งตั้งขึ้นโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยเฉพาะเขตพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบนมี ช.นายอำเภอกระทุ่มแบน เป็นเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งกรรมการตรวจคะแนนและเจ้าหน้าที่คะแนนในเขตพื้นที่ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จำนวน 43 หน่วยเลือกตั้ง ในเขตพื้นที่ อำเภอบ้านแพ้ว จำนวน 31 หน่วยเลือกตั้ง ได้นับคะแนนไม่ตรงกับความจริงในบัตรเลือกตั้ง อ่านบัตรเลือกตั้งของผู้ร้องหมายเลข 7 เป็นของผู้สมัครหมายเลข 1 บ้าง เป็นของผู้สมัครหมายเลข 5 บ้าง หรือเป็นของผู้สมัครอื่นบ้างอ่านบัตรดีของผู้ว่าเป็นบัตรเสียบ้าง อ่านบัตรเสียของผู้สมัครหมายเลข 5 เป็นบัตรดีบ้าง และอ่านบัตรที่ลงคะแนนให้ผู้ร้องเป็นบัตรที่ไม่ลงคะแนนบ้าง ทั้งกระทำหรือละเว้นกระทำด้วยประการใด ๆ ทำให้คะแนนของผู้ร้องเปลี่ยนแปลงลดลง และมีผลให้คะแนนของ อ. ผู้สมัคร รับเลือกตั้งหมายเลข 5 มีคะแนนเพิ่มขึ้น ทำให้คะแนนรวมทั้งหมดของ อ.มากกว่าคะแนนของผู้ร้อง 344 คะแนน และได้รับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรสาคร การบรรยายคำร้องใน ลักษณะนี้มิใช่การแสดงถึงสภาพแห่งข้ออ้างและข้อหาของผู้ร้อง โดยแจ้งชัด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 วรรคสอง หากแต่เป็นคำร้องที่กล่าวถึงข้อเท็จจริงคลุม ๆ และรวมกันมา คำร้องของผู้ร้องจึงทำให้ผู้มีส่วน ได้เสียจากเหตุตามคำร้องเสียเปรียบ ไม่อาจเข้าใจและยื่นคำ คัดค้านได้ตรงกับรูปเรื่อง จึงเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม แม้ศาลชั้นต้นจะส่งความเห็นไปยังศาลฎีกา โดยไม่ดำเนิน กระบวนพิจารณาไต่สวนคำร้อง หรือในกรณีที่เห็นว่าอาจทำให้ ความเห็นได้ไม่ต้องให้คู่ความสืบพยานและสั่งงดการไต่สวน แต่ไม่ดำเนินกระบวนพิจารณาดังกล่าวก็ตาม ศาลฎีกาก็มี อำนาจมีคำสั่งในเรื่องนี้ได้

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้อง ขอให้ศาลมีคำสั่งนับคะแนนในเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดสมุทรสาคร ใหม่ หากผู้ร้องได้รับเลือกตั้งมีคะแนนเป็นลำดับที่ 2 ก็ขอให้มีคำสั่งว่านายเอนก ทับสุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับเลือกตั้งเป็นโมฆะและให้มีการเลือกตั้งใหม่แทน
นายเอนก ทับสุวรรณ ผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตเลือกตั้งที่ 1 ยื่นคำคัดค้านว่าคำร้องของผู้ร้องเคลือบคลุม การดำเนินการเลือกตั้งเป็นไปโดยชอบและบริสุทธิ์ยุติธรรม การนับบัตรคะแนนถูกต้องตรงกับข้อเท็จจริง แม้จะมีการนับคะแนนใหม่ก็ไม่ทำให้จำนวนคะแนนเปลี่ยนแปลงไป ขอให้ยกคำร้อง
ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครยื่นคำคัดค้านว่า กรรมการตรวจคะแนนและเจ้าหน้าที่คะแนนได้ดำเนินการเลือกตั้งนับคะแนนตรวจคะแนนและรวมคะแนนถูกต้องตามขั้นตอนและวิธีการของกฎหมายเลือกตั้งแล้ว การประกาศผลการเลือกตั้งที่ไม่เป็นทางการย่อมไม่มีผลตามกฎหมาย ทั้งคำร้องของผู้ร้องเคลือบคลุม ขอให้ยกคำร้อง
ในระหว่างนัดพิจารณาของศาลจังหวัดสมุทรสาคร ผู้คัดค้านทั้งสองยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 ว่าคำร้องของผู้ร้องเคลือบคลุมหรือไม่ ศาลจังหวัดสมุทรสาครจึงส่งสำนวนมาศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยชี้ขาดในปัญหานี้ พร้อมกับส่งความเห็นของศาลจังหวัดสมุทรสาครมาด้วย โดยไม่ได้สั่งให้ผู้ร้องและผู้คัดค้านดำเนินกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการไต่สวนคำร้องอย่างใด ซึ่งความเห็นของศาลจังหวัดสมุทรสาคร เห็นว่า คำร้องของผู้ร้องเคลือบคลุม ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 วรรคสอง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 มาตรา 79 บัญญัติให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาใช้บังคับโดยอนุโลม คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นคำฟ้องตามบทวิเคราะห์ศัพท์ ในมาตรา 1(3) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งด้วย ผู้ร้องชอบที่จะต้องบรรยายคำร้องให้แจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของผู้ร้อง รวมทั้งคำขอบังคับและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 วรรคสอง จึงมีปัญหาว่า คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ร้องในคดีนี้ เป็นคำร้องที่เคลือบคลุมหรือไม่ พิเคราะห์แล้ว ผู้ร้องบรรยายคำร้องว่าการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดสมุทรสาครดำเนินไปโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพ.ศ. 2522 เหตุที่ผู้ร้องอ้างว่าเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวนั้น ผู้ร้องบรรยายคำร้องสรุปได้ว่าเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดสมุทรสาคร มีเขตพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร อำเภอบ้านแพ้ว และอำเภอกระทุ่มแบนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในแต่ละอำเภอ มีกรรมการตรวจคะแนนและเจ้าหน้าที่คะแนนซึ่งเป็นผู้ได้รับแต่งตั้งขึ้นโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยเฉพาะเขตพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบนมีร้อยเอกชวลิต กะลัมพะเหติ นายอำเภอกระทุ่มแบน เป็นเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งกรรมการตรวจคะแนนและเจ้าหน้าที่คะแนนในเขตพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร จำนวน 43 หน่วยเลือกตั้ง ในเขตพื้นที่อำเภอบ้านแพ้ว จำนวน 31 หน่วยเลือกตั้งและในเขตพื้นที่ อำเภอกระทุ่มแบน จำนวน 112 หน่วยเลือกตั้ง ได้นับคะแนนไม่ตรงกับความจริงในบัตรเลือกตั้ง อ่านบัตรเลือกตั้งของผู้ร้องหมายเลข 7 เป็นของผู้สมัครหมายเลข 1 บ้าง เป็นของผู้สมัครหมายเลข 5 บ้าง หรือเป็นของผู้สมัครอื่นบ้าง อ่านบัตรดีของผู้ร้องว่าเป็นบัตรเสียบ้าง อ่านบัตรเสียของผู้สมัครหมายเลข 5 เป็นบัตรดีบ้าง และอ่านบัตรที่ลงคะแนนให้ผู้ร้องเป็นบัตรที่ไม่ลงคะแนนบ้าง ทั้งกระทำหรือละเว้นกระทำด้วยประการใด ๆ ทำให้คะแนนของผู้ร้องเปลี่ยนแปลงลดลง และมีผลให้คะแนนของนายเอนก ทับสุวรรณ ผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 5 มีคะแนนเพิ่มขึ้น ทำให้คะแนนรวมทั้งหมดของนายเอนกมากกว่าคะแนนของผู้ร้อง 344 คะแนน และได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรสาคร การบรรยายคำร้องในลักษณะดังกล่าวนี้ แม้จะมีการระบุชื่อร้อยเอกชวลิตนายอำเภอกระทุ่มแบนว่าเป็นเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งโดยเฉพาะเจาะจงเพียงคนเดียว แต่การปฏิบัติหน้าที่ในการเลือกตั้งของกรรมการตรวจคะแนนและของเจ้าหน้าที่คะแนนในเขตเลือกตั้งพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร 43 หน่วยเลือกตั้ง พื้นที่อำเภอบ้านแพ้ว 31 หน่วยเลือกตั้ง และพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบน 112 หน่วยเลือกตั้ง รวม 186 หน่วยเลือกตั้ง ที่ผู้ร้องกล่าวอ้างว่าดำเนินการเลือกตั้งฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 โดยเจตนาทุจริตนั้น ปรากฏว่าการบรรยายคำร้องของผู้ร้องได้ระบุว่ากรรมการตรวจคะแนนและเจ้าหน้าที่คะแนนมีรายละเอียดตามบัญชีและหน่วยเลือกตั้งเอกสารหมายเลข 3 เอกสารหมายเลข 5 และเอกสารหมายเลข 7 ท้ายคำร้องตามลำดับ ซึ่งพอจะถือว่าเอกสารท้ายคำร้องดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของคำร้อง และผู้ร้องได้ระบุชื่อกรรมการตรวจคะแนนและเจ้าหน้าที่คะแนนประจำหน่วยเลือกตั้งแต่ละแห่งทั้ง 186หน่วยเลือกตั้งไว้แล้วก็ตาม แต่ปรากฏข้อเท็จจริงตามเอกสารท้ายคำร้องทั้งสามฉบับดังกล่าวว่าหน่วยเลือกตั้งแต่ละหน่วยในจำนวน186 หน่วยเลือกตั้ง มีกรรมการตรวจคะแนนหน่วยละ 7 คน และเจ้าหน้าที่คะแนนหน่วยละ 2 คน รวมเป็นกรรมการตรวจคะแนน จำนวน 1,302 คน และเจ้าหน้าที่คะแนนจำนวน 372 คน รวมทั้งหมด1,674 คน ที่ผู้ร้องกล่าวอ้างว่ากระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งโดยทุจริตการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ผู้ร้องกล่าวอ้างว่าไม่ชอบนี้ ผู้ร้องให้รายละเอียดว่าเป็นการนับคะแนนหรือรวมคะแนนที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เช่น อ่านบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนให้แก่ผู้ร้องเป็นคะแนนของนายเอนกหรือผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลขอื่นหรืออ่านบัตรดีของผู้ร้องให้เป็นบัตรเสีย อ่านบัตรเสียของนายเอนกให้เป็นบัตรดี กระทำหรือละเว้นการกระทำใด ๆ เป็นเหตุให้คะแนนของผู้ร้องลดลงและคะแนนของนายเอนกเพิ่มขึ้นเห็นได้ว่าเป็นการกล่าวอ้างถึงการกระทำของร้อยเอกชวลิตกับกรรมการตรวจคะแนน 1,302 คน และเจ้าหน้าที่คะแนน 372 คน ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินการเลือกตั้งโดยไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงเป็นการเฉพาะว่าในจำนวนเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งทั้ง 1,675 คน ดังกล่าว มีผู้ใดที่อ่านบัตรลงคะแนนเลือกตั้งที่ผิดไปจากความจริงและในหน่วยเลือกตั้งใด หรือผู้ใดที่นับคะแนนหรือรวมคะแนนในหน่วยเลือกตั้งใดที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง และบัตรลงคะแนนดีหรือบัตรลงคะแนนเสียที่นับคะแนนให้เป็นประโยชน์แก่นายเอนกแต่เสียประโยชน์แก่ผู้ร้องเป็นบัตรของผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนใดและมาใช้สิทธิเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งใด ร้อยเอกชวลิตแต่ลำพังหรือร่วมกับเจ้าพนักงานดำเนินการเลือกตั้งคนใดที่ได้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งอย่างใดด้วยวิธีการใด หรือละเว้นกระทำการใดที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง ส่วนหน่วยเลือกตั้งที่ระบุเป็นการเจาะจงรวม4 หน่วยเลือกตั้ง ได้แก่ หน่วยเลือกตั้งที่ 2 หมู่ที่ 3ตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน มีการอ่านบัตรที่ลงคะแนนให้ผู้ร้องเป็นบัตรที่ไม่ลงคะแนนและเป็นบัตรเสีย 61 คะแนน หน่วยเลือกตั้งที่ 3 หมู่ 3 ตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน มีการอ่านบัตรที่ลงคะแนนให้ผู้ร้องเป็นบัตรที่ไม่ลงคะแนนและเป็นบัตรเสีย 101 คะแนนก็ดี หรือมีการนับและแก้ไขเพิ่มคะแนนให้แก่นายเอนก ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 1 หมู่ที่ 2 ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน เพิ่มขึ้น 60 คะแนน และที่หน่วยเลือกตั้งที่ 2 หมู่ที่ 4 ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบนเพิ่มขึ้น 100 คะแนนก็ดีก็ไม่ปรากฏว่ากรรมการตรวจคะแนนและเจ้าหน้าที่คะแนนในหน่วยเลือกตั้งทั้ง 4 หน่วยเลือกตั้งตามที่ระบุในคำร้อง ซึ่งมีจำนวนรวมกันทั้งหมด 9 คน ในแต่ละหน่วยเลือกตั้งว่า เจ้าพนักงานดำเนินการเลือกตั้งผู้ใดแต่ลำพังหรือร่วมกับผู้ใดบ้าง หรือทั้งหมดทุกคนอ่านบัตรไม่ชอบหรือเพิ่มคะแนนให้แก่นายเอนกโดยมิชอบ และด้วยวิธีการนับและเพิ่มคะแนนอย่างไร การบรรยายคำร้องในลักษณะนี้จึงมิใช่การแสดงถึงสภาพแห่งข้ออ้างและข้อหาของผู้ร้องโดยชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง ซึ่งกำหนดเงื่อนไขในการเสนอคำร้องต่อศาลว่าต้องเป็น ดังนั้น หากแต่เป็นคำร้องที่กล่าวถึงข้อเท็จจริงคลุม ๆ และรวมกันมา โดยอาศัยเหตุที่มีการตรวจนับคะแนนและแก้ไขคะแนนที่นับใหม่ ที่เดิมนับคะแนนผิดพลาดในเขตเลือกตั้งทั้ง 186 หน่วยเลือกตั้ง ดังปรากฏรายละเอียดตามบัญชีหน่วยเลือกตั้งที่คะแนนผิดพลาดเอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 4 หมายเลข 6 และหมายเลข 8 มาเป็นข้อมูลสำคัญในการยื่นคำร้องคัดค้าน คำร้องของผู้ร้องจึงทำให้ผู้มีส่วนได้เสียจากเหตุตามคำร้อง เสียเปรียบ ไม่อาจเข้าใจและยื่นคำคัดค้านได้ตรงกับรูปเรื่องจึงเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม และไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง แม้ศาลจังหวัดสมุทรสาครจะส่งความเห็นมา โดยไม่ดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนคำร้องหรือในกรณีที่เห็นว่าอาจทำความเห็นได้โดยไม่ต้องให้คู่ความสืบพยานและสั่งงดการไต่สวนแต่ไม่ดำเนินกระบวนพิจารณาดังกล่าวก็ตามศาลฎีกาก็มีอำนาจมีคำสั่งในเรื่องนี้ได้โดยตรง จึงไม่อาจรับคำร้องไว้พิจารณาได้”
มีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้อง

Share